"ชาญชัย"จี้ยกเลิกการประกวดราคาดิวตี้ฟรี เหตุไม่เป็นกิจการเกี่ยวเนื่องจำเป็น พร้อมเสนอเปิดร้านค้าปลอดอากรนอกสนามบิน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 18, 2019 12:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส. จังหวัดนครนายก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะอดีตรองประธานอนุกรรมาธิการ ด้านกลไกปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ คณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เรียกร้องให้ยกเลิกการประมูลโครงการโครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) และโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. หลังที่ประชุมคณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย ของคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนใน กิจการของรัฐ (PPP) มีมติสรุปว่าโครงการดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นกิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็น เพราะถึงแม้ท่าอากาศยานไม่มีดิวตี้ฟรีก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อกิจการท่าอากาศยานแต่อย่างใด

"จึงขอเสนอว่า ต่อไปนี้ร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ไม่ควรจะขายสินค้าต่าง ๆ ที่สนามบิน และกิจการร้านค้าเชิงพาณิชย์ก็ไม่ควรจะมี และเรียกร้องให้ยกเลิกการประมูลโครงการดังกล่าว" นายชาญชัยระบุ

พร้อมเสนอให้ร้านค้าปลอดอากร และร้านค้าเชิงพาณิชย์ไปตั้งนอกสนามบินทั้งหมด และให้มีการเปิดร้านค้าปลอดอากรในเมืองโดยเสรี และนำส่งสินค้าปลอดอากรผ่านจุดส่งมอบสินค้าปลอดอากรที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอื่น ๆ เหมือนตามสัญญาที่สนามบินดอนเมือง โดยให้กำหนดเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนเป็น 25% และเพิ่มอีกปีละ 10% ของรายได้ขั้นต่ำตามสัญญาของการตั้งจุดส่งมอบสินค้า โดยให้มีการตั้งเฉพาะจุดส่งมอบสินค้าปลอดอากร หรือ pick up counter ที่สนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการค้าเสรีไม่มีการผูกขาดและเอาทรัพย์สินของรัฐไปเรียกเก็บแป๊ะเจี๊ยะ หรือเรียกรับผลประโยชน์นอกสัญญา หรือมีการทุจริตแบบในอดีตที่ผ่านมา

"ผมเสนอให้ไม่ต้องประกวดราคา 2 โครงการนี้ ให้ยกเลิกเลย เพราะมันไม่จำเป็น แล้วจะไปประกวดราคาทำไม และให้ร้านค้ามาอยู่นอกสนามบินทั้งหมด ให้มีเฉพาะจุดส่งมอบสินค้าปลอดอากรพอ และใครอยากเปิดร้านค้าปลอดอากรให้ไปเปิดนอกสนามบิน ไม่ต้องเปิดประมูล"นายชาญชัย กล่าว

ทั้งนี้ นายชาญชัย ระบุว่า ตามแผนที่สนามบินสุวรรณภูมิขยายอาคารรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่ง โดยมีโครงการก่อสร้างต่อขยายอาคารทางทิศเหนือ หรือทิศใต้ ตามแผนงานเดิมของสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ซึ่งต้องใช้เงินอีกหลายหมื่นล้านบาทในการก่อสร้างอาคารใหม่ จึงมีเสนอว่าให้นำเอาพื้นที่ที่ใช้ทำเป็นร้านค้าปลอดอากรและร้านค้าเชิงพาณิชย์รวม 34,000 ตารางเมตรที่กำลังจะเปิดประมูลใหม่ มาปรับใช้เป็นสถานที่รับรองผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก โดยให้เพิ่มจำนวนที่นั่งพักผ่อนของผู้โดยสาร และนำพื้นที่ดังกล่าวไปเพิ่มจุดเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมืองเปิดบริการให้เพียงพอ เพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้โดยสารได้รับบริการที่ดีขึ้นและรวดเร็ว เสร็จสิ้นกระบวนการจุดนี้ภายใน 20 นาที


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ