ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุบาทอ่อนค่าทะลุ 32 อีกครั้งจากปัจจัยภูมิภาคและการเมือง แต่ยังสอดคล้องภูมิภาค

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 25, 2019 17:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า เงินบาทอ่อนค่าทะลุระดับ 32.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบประมาณ 32.02-32.09 บาทต่อดอลลาร์ฯ (25 เม.ย.62) ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2562 และยังเป็นการอ่อนค่าลงแล้วประมาณ 1.5% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา

การอ่อนค่าของเงินบาทดังกล่าว สอดคล้องกับภาพการลงทุนที่ค่อนข้างระมัดระวังของนักลงทุนต่างชาติในตลาดการเงินไทย สะท้อนจากสถานะขายสุทธิรวมในตลาดพันธบัตร และตลาดหุ้นไทย 1.8 หมื่นล้านบาทในช่วง 1 เดือนหลังการเลือกตั้งทั่วไปของไทยสิ้นสุดลง โดยคงต้องยอมรับว่า หนึ่งในปัจจัยสำคัญของตลาดการเงินไทยที่ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดหลังการเลือกตั้ง คือ สถานการณ์ทางการเมือง และความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับการเคลื่อนไหวของสกุลเงินอื่นในภูมิภาคแล้ว นับว่าเงินบาทยังอ่อนค่าในลักษณะเกาะกลุ่มไปกับทิศทางของสกุลเงินของประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากต้องรับมือกับสัญญาณที่อ่อนแอของเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีผลกระทบต่อเนื่องมายังภาคการส่งออกและเศรษฐกิจในภาพรวมเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ก็สามารถทยอยฟื้นตัวแข็งค่ากลับขึ้นมาได้ (จากที่ถูกกดดันอย่างหนัก จากสัญญาณยืนอัตราดอกเบี้ยตลอดทั้งปี 2562 ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุม FOMC ในรอบเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญหลายตัว ไม่ได้ออกมาแย่ตามที่ตลาดกังวล ซึ่งสะท้อนว่าปัจจัยพื้นฐานและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังนับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าโดยเปรียบเทียบ

สำหรับในระยะข้างหน้า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ปัจจัยที่อาจมีผลกระทบต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท ซึ่งอาจต้องติดตามเพิ่มเติมในระยะข้างหน้า (นอกเหนือไปจากปัจจัยการเมืองในประเทศ) คือ บรรยากาศของตลาดสกุลเงินในภูมิภาค เพราะเป็นที่น่าสังเกตว่า แนวโน้มของสกุลเงินเอเชียบางสกุล อาทิ เงินวอนของเกาหลีใต้ เงินริงกิตของมาเลเซีย และเงินรูปีของอินเดียที่อ่อนค่าลงค่อนข้างมากในระยะนี้ ล้วนถูกกดดันจากความกังวลต่อแนวโน้มการชะลอตัวของภาคการส่งออก ปัจจัยเฉพาะทางการเมืองภายใน และความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น หากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงทรงตัวอยู่ในกรอบสูงต่อเนื่อง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่อาจจะดำเนินต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่งในช่วงข้างหน้า ทำให้ผู้ประกอบการควรที่จะศึกษาและเลือกใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศด้านอัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้สามารถลดทอนผลกระทบและปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้นจากโอกาสที่เงินบาทจะผันผวนตามกระแสของสกุลเงินในภูมิภาคได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ