นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.02 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาด วานนี้อยู่ที่ระดับ 32.00/01 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทแกว่งตัวในทิศทางอ่อนค่า ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลหลัก จากควันหลงกรณีประธานเฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะ ยังไม่ลดดอกเบี้ยในปีนี้ ทำให้มีแรงหนุนดอลลาร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง"นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.95 - 32.10 บาท/ดอลลาร์ โดยต้องติดตามตัวเลขการจ้าง งานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯคืนนี้
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง (2 พ.ค.) THAI BAHT FIX 3M ที่ 1.74583% และ THAI BAHT FIX 6M ที่ 1.79548%
SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 32.0325 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.41 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 111.53 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1170 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 1.1189 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.9820 บาท/ดอลลาร์
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ผลประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในกรอบ
2.25-2.50% ซึ่งเป็นการคงดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงจากเปิดตลาดของวันที่ 2 พ.ค. มาอยู่ที่ 31.95
บาทต่อดอลลาร์ และเชื่อว่าจะมีแนวโน้มเงินบาทอ่อนค่าในระยะ 1 เดือนข้างหน้า จากท่าทีของเฟดยังแบ่งรับแบ่งสู้ความกังวลเกี่ยวกับการ
ชะลอตัวของการค้าโลก และฤดูกาลจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนกลับไปที่บริษัทแม่ในต่างประเทศ
- กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า ปีนี้
เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัดคาดว่าจะโตต่ำสุดรอบ 3 ปี ที่ 2.7-3.3% ประกอบกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
จะมีผลต่อการส่งออกของไทยปีนี้ขยายตัวได้เพียง 3-4% โดยไตรมาสแรกการส่งออกต่ำสุด หลังจากนั้นน่าจะฟื้นตัวกลับมาช่วงครึ่งปีหลัง ดัง
นั้น ผู้ส่งออก ของไทยควรต้องทำประกันความเสี่ยงและหาตลาดที่ยังมีศักยภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดประเทศเกิดใหม่ รวมทั้ง CLMV
(กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) เนื่องจาก กลุ่มนี้มีการขยายตัวสูง โดยปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 16.6% และปีนี้มีแนวโน้มขยายตัว 2
หลัก
- ธปท.เผยไตรมาสแรกปีนี้แบงก์เข้มงวดปล่อยสินเชื่อมากขึ้น เหตุกังวลคุณภาพสินเชื่อแย่ โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
แต่คาดไตรมาส 2 สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่แนวโน้มดี
- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.75% ในการประชุมนโยบาย
การเงินเมื่อวานนี้ ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
- บรรดารัฐมนตรีคลังของประเทศในภูมิภาคเอเชียเห็นพ้องร่วมกันว่าจะพิจารณาเพิ่มสกุลเงินเยนของญี่ปุ่นและเงินหยวนของ
จีนในข้อตกลงการสว็อปอัตราแลกเปลี่ยนที่นอกเหนือไปจากดอลลาร์สหรัฐ ในความพยายามที่จะรับมือกับวิกฤตการเงินที่อาจจะเกิดขึ้น ขณะที่
คัดค้านการดำเนินนโยบายปกป้องการค้าท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทรงตัวที่ระดับ 230,000 รายใน
สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน หลังจากพุ่งขึ้น 37,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่
เดือนก.ย.2560 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะลดลงสู่ระดับ 215,000 รายในสัปดาห์ที่
แล้ว
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) หลัง
จากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ขณะที่เงิน
ปอนด์อ่อนค่าลง หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธาน
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้าง
แรงกดดันต่อตลาดทองคำเช่นกัน
- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนเม.ย.ของสหรัฐในคืนนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลา
ไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. หลังจากพุ่งขึ้น
196,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.8%
- ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในคืนนี้ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนเม.ย.
จากมาร์กิต และดัชนีบริการเดือนเม.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)
- โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน จะตัดสินใจว่าจะ
จัดประชุมร่วมกันเพื่อทำข้อตกลงการค้าหรือไม่ หลังจากการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐกับจีนเสร็จสิ้นลงในสัปดาห์หน้า โดยทาง
สหรัฐเชื่อว่าการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐกับจีนมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น