ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.90 แกว่งแคบ รอผล กนง.-ลุ้นศาล รธน.วินิจฉัยสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์-กังวลสงครามการค้า

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 7, 2019 17:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 31.90 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่เปิด ตลาดที่ระดับ 31.91 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 31.89-31.93 บาท/ดอลลาร์

"ระหว่างวันวิ่งไม่ค่อยกว้าง เข้าใจว่าน่าจะรอดูผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปัจจัยการเมืองวันพรุ่งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อจากคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัจจัยการค้าโลกที่ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์จากระดับ 10% เป็น 25% ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้"นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน ยังคงประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเอาไว้ระหว่าง 31.85-32.00 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.59 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 110.65 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1205 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 1.1201 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,669.68 จุด ลดลง 9.37 จุด, -0.56% มูลค่าการซื้อขาย 51,465.66 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 627.86 ลบ.(SET+MAI)
  • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ในวันนี้มีรัฐมนตรี
ลาออกจำนวนหนึ่ง ทำให้ขณะนี้จะมีรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดปัจจุบันบังคงเหลือทำงานต่อไปรวม 17 คน จากทั้งหมด 32 คน
  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า โครงการคลินิกแก้หนี้เป็นโครงสร้างพื้นฐานกลางที่สำคัญของ
ประเทศที่มุ่งช่วยเหลือประชาชนที่มีหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันกับเจ้าหนี้หลายราย ซึ่งปกติการปรับโครงสร้างหนี้จะ
ทำได้ยากเนื่องจากเจ้าหนี้แต่ละรายมีหลักเกณฑ์ที่ต่างกันและลูกหนี้จะต้องเจรจากับเจ้าหนี้แต่ละรายด้วยตนเอง โดยบริษัท บริหารสินทรัพย์
สุขุมวิท จำกัด (SAM) จะเป็นหน่วยงานกลางที่เจรจากับลูกหนี้แทนเจ้าหนี้ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนรายย่อยมีโอกาสแก้ปัญหาได้อย่างเบ็ดเสร็จ
และสามารถหลุดจากวงจรหนี้
  • ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index :ICI) ประจำเดือน พ.ค.62 ดัชนีความเชื่อมั่น
นักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ก.ค.62) ปรับตัวลดลงเล็กน้อยอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว (Neutral) เป็นเดือนที่สอง โดยผลสำรวจพบว่า
ปัจจัยในประเทศจากสถานการณ์การเมืองภายหลังการเลือกตั้งเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ขณะที่เสถียรภาพรัฐบาลใหม่หลัง
เลือกตั้งและผลการเจรจานโยบายการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุน
  • ผู้แทนการค้าสหรัฐ เปิดเผยว่า จีนได้กลับคำสัญญาที่ทำไว้ในระหว่างการเจรจาการค้ากับสหรัฐ ซึ่งเป็นชนวนเหตุที่ทำให้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันศุกร์นี้
  • รัฐบาลจีนเปิดเผยว่า จีนมุ่งมั่นที่จะเจรจาการค้ากับสหรัฐอย่างจริงใจ
  • กระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ว่า นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเดินทางเยือนสหรัฐเพื่อเจรจา
การค้าในวันที่ 9-10 พ.ค.นี้ ตามคำเชิญของนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลัง
สหรัฐ
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกรายงานเตือนเกี่ยวกับอันตรายจากการกู้ยืมที่มีความเสี่ยงของธุรกิจต่างๆ โดยระบุว่า

บริษัทที่มีประวัติด้านเครดิตที่ย่ำแย่ที่สุดได้แก่บริษัทที่มีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ