ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.50 ระหว่างวันแข็งค่านับตั้งแต่ ก.พ.62 - การเมืองชัดเจนขึ้น มองกรอบพรุ่งนี้ 31.45-31.60

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 14, 2019 18:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 31.50 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่เปิด ตลาดที่ระดับ 31.60/62 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 31.45-31.64 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้เงินบาททำ Low แข็งค่าสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 62"นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน กล่าวต่อว่า เงินบาทที่แข็งค่ามาจากกรณีที่ทางการไทยออกมาระบุว่า ไทยไม่ได้แทรกแซงค่าเงินเพื่อให้เกิด ความได้เปรียบทางการค้ากับสหรัฐ เพียงแต่ไทยมีการเกินดุลการค้ากับสหรัฐอยู่บ้าง และไม่ได้กังวลกรณีอาจมีชื่ออยู่ในบัญชีของประเทศที่จะ มีการติดตามต่อไป

ด้านปัจจัยทางการเมือง เริ่มมีความคลี่คลายมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ปัจจัยสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯกับจีนยังต้อง ติดตามต่อไป

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวในวันพรุ่งนี้ระหว่าง 31.45-31.60 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.68 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 109.60/67 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1234 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 1.1231/1236 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,633.84 จุด ลดลง 6.29 จุด, -0.38% มูลค่าการซื้อขาย 53,923.40 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,671.42 ลบ.(SET+MAI)
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จะติดตามสถานการณ์สถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนอย่างใกล้ชิด
และจะประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เดือน มิ.ย. นี้ต่อไป
  • ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลกระทบจากสงครามการค้า
ระหว่างสหรัฐฯ และจีน จากกรณีที่สหรัฐขึ้นภาษีจีนรอบ 3 ส่งผลกระทบต่อการค้าโลกและเศรษฐกิจโลกอย่างแน่นอน ซึ่งเดิมได้คาดการณ์
เศรษฐกิจโลกในปี 62 ขยายตัว 3.3-3.5% เมื่อสหรัฐขึ้นภาษีสินค้าจีนมูลค่า 200,000 ล้าน USD จาก 10% เป็น 25% คาดว่า GDP
โลกจะเหลือเพียง 3% หรือจะหดหายไป 0.3-0.5% ซึ่งผลกระทบดังกล่าวจะส่งผลไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วย

สำหรับการส่งออกไทยในปี 62 ได้ประเมินว่าจะขยายตัวในระดับ 3.2-4.6% เมื่อสหรัฐปรับขึ้นภาษีจีนจาก 10% เป็น 25% ก็จะกระทบต่อการส่งออกไทยในปีนี้ทันที 1% หรือจะลดลงเหลือเพียง 2.2-4.6%

  • ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงกรณีที่สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน
ครั้งล่าสุดจาก 10% เป็น 25% มูลค่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และจีนประกาศขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ เป็นการตอบโต้มูลค่า 60,000
ล้านเหรียญฯ ว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงฯ เชิญนักลงทุนและผู้ประกอบการขนาดใหญ่ในกลุ่ม
อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์และชิ้นส่วน มาหารือเบื้องต้นก่อน เพราะได้รับผลกระทบมากที่สุด ก่อนที่จะประชุมหารือกับทูตพาณิชย์ทั่วโลก
เพื่อกำหนดเป้าหมายส่งออกต่อไป
  • ค่าเงินหยวนในตลาดออฟชอร์ของจีนร่วงแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ของปี 2562 ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียวันนี้ ขณะที่เงิน
เยนซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย ยังคงได้แรงหนุน เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นครั้งใหม่ระหว่างจีน-สหรัฐ ได้ส่งผลกระทบต่อ
ความเชื่อมั่น ขณะที่จีนและสหรัฐต่างเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของแต่ละฝ่าย
  • กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า จีนได้เรียกร้องให้องค์การการค้าโลก (WTO) เพิ่มความพยายามที่จะยกระดับระบบการค้า
พหุภาคี ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการพาดพิงถึงการกีดกันการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ
  • รัฐมนตรีกระทรวงคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ จะไม่ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในขอบเขต
เดียวกันกับวิกฤตเลห์แมน แม้ว่า ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศดังกล่าวมีแนวโน้มว่า จะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดายก็ตาม
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า นโยบายการคลังของเกาหลีใต้ควรขยายตัวในระยะกลาง เพื่อสนับ
สนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การสร้างงาน และการปรับสมดุลภายนอก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ