นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.86 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิด ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.98 บาท/ดอลลาร์ หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ประกาศออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อน ค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก และอาจมีผลให้เฟดตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย
"บาทแข็งค่าหลังดอลลาร์อ่อนค่า เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแย่กว่าคาด ทำให้ตลาดกังวลว่าสหรัฐอาจรับมือจาก ผลกระทบเรื่องสงครามการค้าไม่ไหว" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 31.80 - 31.95 บาท/ดอลลาร์
นอกจากปัจจัยต่างประเทศแล้ว ตลาดยังจับตาดูทิศทางการเมืองในประเทศเกี่ยวกับความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล โดย เฉพาะท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะมีมติอย่างไร
THAI BAHT FIX 3M (23 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.73257% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.75791%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 109.70 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 110.00/02 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1183 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1133/1137 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.9750 บาท/ดอลลาร์
- "คลัง" เตรียมหารือ ธปท.ขอผ่อนเกณฑ์มาตรการคุมสินเชื่อบ้านให้แบงก์รัฐ อ่วมหนักกระทบยอดปล่อยกู้ทรุด
- ส.อ.ท.กังวลสารพัดปัจจัยบั่นทอนเศรษฐกิจ ทั้งการเมือง ภัยแล้ง สงครามการค้า ขีดเส้นให้นักการเมืองรีบจัดตั้งรัฐบาล
ให้ชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า เผยดัชนีความเชื่อมั่นลดลงแบบไม่เคยเห็นมาก่อนกระตุ้นกระทรวงเศรษฐกิจตั้งวอร์รูมรับมือสงครามการค้า
เผยเดือน มิ.ย.นี้ กกร.จะประชุมปรับลดเป้าจีดีพีและส่งออก
- อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 ก.ค.นี้ จะเริ่มนำ พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ ฉบับใหม่ออกมาบังคับใช้ มีการปรับปรุง
อำนาจการใช้พิจารณาการลงทุนในที่ราชพัสดุใหม่ โดยให้อำนาจกรมธนารักษ์พิจารณาการลงทุนที่ราชพัสดุที่มีมูลค่าที่ดินต่ำกว่า 500 ล้านบาท
ได้ทันที ส่วนถ้าเป็นที่ราชพัสดุที่มูลค่าเกิน 500 ล้านบาท จะให้อำนาจของคณะกรรมการที่ราชพัสดุ ซึ่งมี รมว.คลังเป็นประธานพิจารณาได้
ทั้งหมด ยกเว้นกรณีถ้าเป็นพื้นที่ราชพัสดุ ที่ลงทุนเกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานตามมาตรา 7 เช่น ถนนศูนย์ประชุม หากเป็นที่ราชพัสดุเกิน
5,000 ล้านบาทจะต้องเสนอเข้าคณะกรรมการร่วมทุนภาครัฐและเอกชน (พีพีพี)
- "เอสเอ็มอีไทย" อ่วมหนัก ม.หอการค้าไทย ชี้ดัชนีเอสเอ็มอีไตรมาสแรกของปีนี้รูดต่ำ เหตุต้องรับต้นทุนสูงขึ้น-รายได้
กำไรลด-ขาดสภาพคล่อง จ่อปรับลดการขยายตัวเอสเอ็มอีปีนี้เหลือ 4.8% จาก 5% จับตาพิษสงครามการค้าซ้ำเติม
- ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์รับวินิจฉัยปม "ธนาธร" ถือหุ้นสื่อ พร้อมสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. จนกว่ามีคำวินิจฉัย
- ประธานาธิบดีสหรัฐ เปิดเผยว่า ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนยังคงมีโอกาสเกิดขึ้นได้ และอาจนำกรณีของบริษัทหัว
เว่ย เทคโนโลยี่ ซึ่งถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำ เข้ามารวมในการเจรจาการค้าดังกล่าว
- โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า การดำเนินการทางด้านการค้าของสหรัฐในระยะนี้ กำลังเป็นอุปสรรคขัดขวางการ
เจรจาการค้ากับจีน ซึ่งถ้าสหรัฐต้องการให้การเจรจาการค้าดำเนินต่อไป สหรัฐจะต้องมีความจริงใจในการแก้ไขการกระทำที่ผิดพลาด
หลังจากนั้น การเจรจาจึงจะเกิดขึ้นได้
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ
211,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 215,000
รายในสัปดาห์ที่แล้ว
- ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการ
ผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.9 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 36 เดือน หลังจากแตะระดับ
53.0 ในเดือนเม.ย. โดยการปรับตัวลงของดัชนี PMI ในเดือนพ.ค.ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน
ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2555
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลง 6.9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ
673,000 ยูนิต หลังจากพุ่งแตะระดับ 723,000 ยูนิตในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2550
- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.)
ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะ
สินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ การอ่อนค่าของ
สกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำด้วยเช่นกัน
- นักลงทุนยังกังวลกับความไม่แน่นอนเรื่องกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หลังจากมีข่าว
ว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ อาจประกาศลาออกจากตำแหน่งในวันนี้ โดยสื่อรายงานว่า นางเมย์อาจประกาศลาออกจาก
ตำแหน่ง หลังจากที่ต้องเผชิญแรงกดดันทั้งจากพรรคฝ่ายค้านและพรรครัฐบาล อันเนื่องมาจากความล้มเหลวในการผลักดันข้อตกลง
Brexit ให้ผ่านการอนุมัติของรัฐสภาอังกฤษ