(เพิ่มเติม) กนอ.เผยต่อรองกลุ่ม GULF-PTT โครงการท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 ได้ลดค่าร่วมลงทุนดัน IRR สูงขึ้น รายงานครม. 4 มิ.ย.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 27, 2019 18:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการ การนิคมอุตตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) วันนี้ กนอ.ได้รายงานผลการเจรจากับภาคเอกชนให้ที่ประชุม กพอ. รับทราบ หลังจากคณะรัฐมนนตรี (ครม.) ตีกลับให้ปรับปรุงรายละเอียดโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะทื่ 3 (ช่วงที่ 1) มูลค่าโครงการ 55,400 ล้านบาท โดยผลการเจรจาต่อรองกับเอกชน ทำให้ กนอ.จะต้องจ่ายค่าร่วมลงทุนให้กับเอกชนเหลือ 710 ล้านบาท/ปี จากเดิมต้องจ่าย 720 ล้านบาท/ปี เป็นเวลา 30 ปี

นอกจากนี้ กนอ.ได้รับอัตราตอบแทนทางการเงินและทางเศรษฐศาสตร์ของการลงทุน (FIRR) เพิ่มขึ้นจาก 9.14% เป็น 9.21% ส่วนเอกชนได้รับอัตราผลตอบแทนของ FIRR ลดลงเล็กน้อย จาก 10.75% เป็น 10.73% ขณะที่ผลตอบแทนทางการเงินขั้นต่ำของ กนอ.ที่จะได้เพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 6,606 ล้านบาท เพิ่มเป็น 6,721.23 ล้านบาท

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ กพอ. กล่าวว่า กพอ.เตรียมนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ต่อไป ซึ่งเป็นการรายงาน ครม.เพื่อทราบเท่านั้น เพราะไม่ได้มีการอนุมัติงบประมาณ

ผู้ว่าการ กนอ.กล่าวว่า หลังจากนั้นคณะกรรมการฯจะส่งร่างสัญญาไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาร่างสัญญาแล้วเสร็จ ภายใน 19 มิ.ย.62 หลังจากนั้น กพอ.เห็นชอบผลการคัดเลือกและร่างสัญญาภายในวันที่ 22 มิ.ย.62 และเตรียมเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเห็นชอบผลการคัดเลือกได้ภายใน 9 ก.ค.62 และคาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาร่วมลงทุนระหว่าง กนอ.-กลุ่มกิจการร่วมค้ากัลฟ์ และ พีทีที แทงค์ ภายในเดือนก.ค.62

"การเจรจาดังกล่าวได้ดำเนินการอย่างถึงที่สุด ซึ่งเอกชนได้ลดวงเงินจาก 720 ล้านบาท เป็น 710 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นการคำนวณหลักการของเงื่อนไขทางการเงินที่คำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การใช้งบลงทุนในโครงการ ที่ต้องใช้วงเงินที่สูง และกู้เงินเพื่อการลงทุน รวมทั้งการขอใบอนุญาตในการดำเนินกิจการ ภายหลังจากก่อสร้างแล้วเสร็จ และอาจต้องมีปัจจัยในเรื่องของจำนวนผู้ใช้บริการท่าเรือที่จะเข้ามาใช้บริการในอนาคต ทั้งนี้ ในขั้นตอนดังกล่าว หาก กพอ. และครม. เห็นชอบ ตามที่คณะกรรมการฯเสนอ จะดำเนินการส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาสัญญาของโครงการฯดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับภาคเอกชนเข้าพัฒนาในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานได้ประมาณเดือน ก.ค.นี้"ผู้ว่าการ กนอ. กล่าว

ทั้งนี้ กลุ่มกิจการร่วมค้ากัลฟ์ และพีทีที แทงค์ เป็นผู้ยื่นซองข้อเสนอโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะ 3 (ช่วงที่1) เพียงรายเดียวนั้น เป็นความร่วมมือระหว่าง บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) และบริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม บมจ.ปตท. (PTT) โดยร่วมกันถือหุ้นในสัดส่วน 70% และ 30%ตามลำดับ

การพัฒนาโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดเฟส 3 (ช่วงที่ 1) ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง บนพื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่ โดยแบ่งการพัฒนาเป็น 2 ช่วง โดยในช่วงที่ 1 เป็นการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ประกอบด้วย การขุดลอกร่องน้ำ และแอ่งกลับเรือ การก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น การก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมการเดินเรือ ท่าเทียบเรือบริการ และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 68

สำหรับการพัฒนาท่าเรือฯมาบตาพุดระยะที่ 3 ในช่วงที่ 2 จะเป็นการลงทุนพัฒนาก่อสร้างในส่วนของท่าเรือ (Superstructure) จะดำเนินการพัฒนาท่าเทียบเรือสินค้าเหลว รองรับปริมาณขนถ่ายสินค้าเหลว เพื่อรองรับการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และสินค้าเหลวสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 66 และเปิดให้บริการได้ภายในปี 68


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ