นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.30 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงปิด ตลาดเย็นวานนี้ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าหลังมีแรงเทขายทำกำไร
"บาทแข็งค่าจากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ หลังมีแรงเทขายดอลลาร์ทำกำไร ช่วงนี้ดอลลาร์ขาลงจากแนวโน้มว่าเฟดจะปรับลด อัตราดอกเบี้ย" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 31.25 - 31.40 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยที่มีผลต่อค่าเงินบาทในช่วงนี้เป็นความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน การไหลเข้าของเงินทุนต่าง ประเทศ และคืนนี้จะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ
THAI BAHT FIX 3M (6 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.65337% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 1.64456%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.39 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ 108.17 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1271 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 1.1235 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.3780 บาท/ดอลลาร์
- นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลกประจำประเทศไทย (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยว่า เวิลด์แบงก์อยู่ระหว่างรวบรวม
ข้อมูลหลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่และผลสำรวจมุมมองนักลงทุนต่าง ๆ ทั้งเรื่องนโยบายและรายชื่อคณะรัฐมนตรี เพื่อจัดทำรายงาน
เศรษฐกิจรอบใหม่ในเดือน ก.ค.นี้ จากปัจจุบันคาดเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัว 3.8% ลดลงจากสิ้นปี 61 เติบโต 4.1% ซึ่งสิ่งสำคัญของ
รัฐบาลชุดใหม่ คือ การผลักดันโครงการลงทุนต่าง ๆ ที่ดำเนินการอยู่ให้บรรลุเป้าหมายตามที่วางไว้รวมถึงแผนผลักดันโครงการโครง
สร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อื่น ๆ ด้วย เพราะการลงทุนจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงที่การส่งออกชะลอตัว
- กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยถึงกรณีกระแสเงินทุน(ฟันด์โฟลว์)ของนักลงทุนต่าง
ชาติที่ไหลเข้ามาตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ว่า หลังการปรับน้ำหนักของดัชนี MSCI ได้ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีการปรับพอร์ตการลงทุน และการ
เลือกตั้งมีความชัดเจนขึ้นว่าใครสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งผลที่ออกมารัฐบาลชุดใหม่มีความต่อเนื่องของนโยบาย ทำให้ฟันด์โฟลว์มั่นใจและ
กลับมาเพิ่มมากขึ้น
- ม.หอการค้าไทยเปิด จี้รัฐบาลเร่งตั้ง ครม.เป็นที่ยอมรับของสังคมและมีทีมเศรษฐกิจที่เรียกความเชื่อมั่นได้
- "คลัง" รับเศรษฐกิจไทยปี 2562 เจอศึกหนักพิษเศรษฐกิจโลกชะลอถ่วงแรง ฉุดส่งออกวิกฤติ แจงเตรียมมาตรการพยุง
เศรษฐกิจก๊อก 2 เสนอ "ขุนคลัง" คนใหม่ เอกชนคาดสถานการณ์ครึ่งปีหลัง 2562 ดีกว่าที่ผ่านมา
- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด
เป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ
0.25% นอกจากนี้ ECB ระบุว่า จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไป อย่างน้อยจนถึงช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563
- ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ECB ได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโร
โซน สู่ระดับ 1.2% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ระดับ 1.1% อย่างไรก็ดี ECB ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวในปี
หน้า สู่ระดับ 1.4% ในปีนี้ จากเดิมที่ระดับ 1.6%
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ระดับหนี้สาธารณะของสหรัฐยังคงไม่มีความยั่งยืน และจำ
เป็นต้องมีการปรับนโยบายเพื่อลดยอดขาดดุลการคลัง และทำให้หนี้สาธารณะลดลงอย่างต่อเนื่องในระยะกลาง
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ เปิดเผยในระหว่างการประชุมร่วมกับนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดี
ฝรั่งเศสว่า เขาจะตัดสินใจว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 3.25 แสนล้านดอลลาร์หรือไม่ ภายหลังการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม
G20 ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทรงตัวที่ระดับ 218,000 รายใน
สัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทรงตัวเช่นกัน
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 2.1% สู่ระดับ 5.08 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือน
เม.ย. จากระดับ 5.19 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. อย่างไรก็ดี สหรัฐขาดดุลการค้าต่อจีนพุ่งขึ้น 29.7% ในเดือนเม.ย. สู่ระดับ
2.69 หมื่นล้านดอลลาร์
- สกุลเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) หลัง
จากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจและตัว
เลขเงินเฟ้อของยูโรโซนในปีนี้
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 7 เนื่องจากความตึงเครียด
ด้านการค้าระหว่างสหรัฐและบรรดาประเทศคู่ค้า ยังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ การ
อ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดเช่นกัน
- สหรัฐมีกำหนดรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ช่วงค่ำนี้ ตามเวลาไทย นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดการณ์
ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.จะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนพ.ค.จะทรงตัวที่
ระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี
- จับตาการประชุมระดับรัฐมนตรีของชาติสมาชิกกลุ่ม G20 ซึ่งประกอบด้วยรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลาง ในวันที่
8-9 มิ.ย.นี้ ที่เมืองฟูกูโอกะของญี่ปุ่น นักลงทุนจับตานายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดพบปะกับนายอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคาร
กลางจีน ในการประชุมกลุ่ม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้