(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.29/34 แข็งค่าสอดคล้องทิศทางภูมิภาค หลังดอลล์อ่อนจากตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ ต่ำกว่าคาด-ลุ้นเฟดลดดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 10, 2019 12:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.29/34 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.36 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทยังคงมีทิศทางที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ สอดคล้องกับค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค เนื่องจากช่วงนี้ดอลลาร์ สหรัฐอ่อนค่าหลังจากเมื่อวันศุกร์ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ประกอบกับตลาดมองว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 2 ครั้ง ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

"บาทวันนี้น่าจะยังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทางที่แข็งค่า จากที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังตัวเลข Non farm ออกมาต่ำกว่า คาด ตลาดก็เลยมองว่าเฟดมีโอกาสจะลดดอกเบี้ยลงอีก 2 ครั้งในช่วงครึ่งหลังปีนี้" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.20-31.40 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (7 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.65144% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.65880%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 31.3775 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.30/80 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 108.60 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1261 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1261 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.3530 บาท/
ดอลลาร์
  • ธนาคารกสิกรไทย มองว่าเงินบาทในช่วงวันที่ 10-14 มิถุนายน จะเคลื่อนไหวผันผวนมากขึ้นในกรอบ 31.20-31.60
ตามประเด็นการค้าโลกเป็นสำคัญ โดยรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ มีกำหนดพบกับผู้ว่าการธนาคารกลางจีนในการประชุมจี 20 ระหว่างวันที่ 7 –
9 มิถุนายน ซึ่งตลาดจะจับตาทิศทางการเจรจาทางการค้าระหว่างทั้งสองฝ่ายว่าจะออกมาในทิศทางไหน นอกจากนี้ นักลงทุนรอติดตามว่า
สหรัฐฯ จะเริ่มเก็บภาษีอย่างเป็นทางการกับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกในวันที่ 10 มิถุนายนหรือไม่ ประเด็นดังกล่าวอาจส่งผลให้นักลง
ทุนกลับเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น อาทิ เงินเยน รวมถึงเงินบาท ด้านตัวเลขเศรษฐกิจ จีนมีกำหนดประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ
โดยตลาดรอประเมินผลกระทบของนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ต่ออัตราการขยายตัวต่อเศรษฐกิจจีน
  • "นอนแบงก์" รุดปรับแผนธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ หลังหนี้เสียทั้งระบบพุ่ง 200% เฉียด 1 พันล้านบาท "กรุงศรีคอนซูเมอร์"
หยุดปล่อยกู้ ภายใต้แบรนด์ "สินเชื่อเถ้าแก่ทันใจ" รอหาพันธมิตรปั้นแบรนด์ใหม่ ด้าน "เมืองไทยลิสซิ่ง" ปิดประตูรับลูกค้าใหม่ หากต้อง
การขอกู้ต้องให้ลูกค้าเก่าค้ำประกัน
  • ธนาคารกลางจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค.
สู่ระดับ 3.101 ล้านล้านดอลลาร์
  • ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนในวันนี้ว่า การเพิ่มขึ้นของบริษัทด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่ใช้
บิ๊กดาต้า และปัญญาประดิษฐ์ (AI) อาจทำให้ระบบการเงินโลกเกิดภาวะชะงักงันครั้งใหญ่
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 75,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 180,000 ตำแหน่ง และต่ำกว่าระดับ 224,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.

ทั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 4 เดือนที่การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่า 100,000 ตำแหน่ง

  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (7 มิ.ย.)
เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการชะลอ
ตัวของเศรษฐกิจ และกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (7 มิ.ย.) เป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลาง
สหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างเร็วที่สุดในเดือนหน้า หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอเกินคาดของสหรัฐ นอก
จากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครอง
เงินสกุลอื่น
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 18-19 มิ.ย. ขณะที่ FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือ
วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 79% ที่เฟดจะปรับ
ลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ค. และมีโอกาส 90% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. รวมถึงมีโอกาสมากกว่า
80% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค.
  • รมว.คลังสหรัฐ เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า ตนได้พบปะกับ ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) โดยการหารือเป็นไปอย่าง
สร้างสรรค์ ทั้งยังมีการพูดคุยในเรื่องประเด็นการค้าด้วย
  • นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนและเม็กซิโกด้วย หลังจากที่สำนักงานผู้แทนการ
ค้าสหรัฐ (USTR) แถลงว่า สหรัฐได้เลื่อนกำหนดเวลาในการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน จากวันที่ 1 มิ.ย. เป็นวันที่ 15 มิ.
ย.
  • สัปดาห์นี้สหรัฐจะรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค., อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค.,

จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนเม.ย. และยอดค้าปลีกเดือนพ.ค. เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ