ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.33/35 ระหว่างวันผันผวนแต่ทิศทางยังแข็งค่า

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.33/35 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.29/34 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทค่อนข้างจะผันผวน แต่ยังมีโอกาสจะแข็งค่าได้ต่อในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากระยะนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออก มาไม่ค่อยดี ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวจากผลกระทบของสงครามการค้า จึงทำให้ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงิน หลักอื่นๆ

"บาทที่แข็งค่าในช่วงนี้ เป็นผลจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะจากดอลลาร์ที่อ่อนค่า หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลายตัวออกมาไม่ค่อยดี เศรษฐกิจส่งสัญญาณชะลอตัวจาก trade war" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่าพรุ่งนี้เงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่า ให้กรอบการเคลื่อนไหวที่ 31.20 - 31.40 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.59 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.30/80 เยน/ดอลลาร์
เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1305 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1261 ดอลลาร์/ยูโร
ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,664.73 จุด เพิ่มขึ้น 11.23 จุด (+0.68%) มูลค่าการซื้อขาย 47,580 ล้านบาท
สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,628.98 ลบ.(SET+MAI)
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อน

ไหวในกรอบ 31.15-31.50 บาทต่อดอลลาร์ มองว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจกับข้อมูลเงินเฟ้อ และยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ หลังตัวเลข

จ้างงานนอกภาคเกษตรและการเติบโตของค่าจ้างเดือนพฤษภาคมที่ต่ำกว่าคาด ได้ตอกย้ำมุมมองของตลาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

จะลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ประเมินไว้ โดยนักลงทุนคาดว่ามีความเป็นไปได้มากขึ้นที่เฟดอาจตัดสินใจลดดอกเบี้ยในเดือนกรกฏาคม

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ คาดว่าในระยะนี้ ตลาดการเงินจะให้ความสนใจกับการจัดทัพทีมเศรษฐกิจของคณะรัฐมนตรีชุด ใหม่ เพื่อประเมินมาตรการประคับประคองโมเมนตัมการเติบโตต่อไป

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จะเข้าร่วมการประชุมคณะทำงานด้านการค้าและการลงทุน ไทย-

สหภาพยุโรป (EU)ครั้งที่ 14 ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีเพื่อหารือส่งเสริมความสัมพันธ์ทางด้าน

เศรษฐกิจการค้าระหว่างไทยและสหภาพยุโรป และแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าการลงทุนระหว่างกัน

รัฐมนตรีการค้าและเศรษฐกิจดิจิทัลจากประเทศในกลุ่ม G20 ได้ปิดฉากการประชุมระยะเวลา 2 วันที่จังหวัดอิบารากิ

ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมให้คำมั่นที่จะเดินหน้าปฏิรูปองค์การการค้าโลก (WTO) ต่อไป

โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า สกุลเงินหยวนของจีนจะอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำกว่า 7 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดใน

รอบกว่า 10 ปี ภายใน 3 เดือนนี้ เนื่องจากมองว่าทางการจีนอาจจะปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลงเพื่อชดเชยผลกระทบที่เกิดจากการถูก

เรียกเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐ ซึ่งแม้จะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำหนดนโยบายของจีนไม่ต้องการให้เงินหยวนอ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับดังกล่าว แต่ก็มี

แนวโน้มว่า เงินหยวนอาจอ่อนค่าลงจนต่ำกว่าดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์ต่อไป

ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่กรุงปักกิ่ง จีนไม่ได้กำหนดระดับเงินหยวนอย่างเฉพาะเจาะจง

และมั่นใจว่าเงินหยวนจะกลับมาแข็งค่าอีกครั้งเมื่อสงครามการค้าลดความร้อนแรงลง

ยอดส่งออกเดือนพ.ค.ของจีนเพิ่มขึ้น 7.7% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 4.7% ขณะที่ยอด

นำเข้าหดตัวลง 2.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 5.8% ส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าที่ระดับ

2.7912 แสนล้านหยวน ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.36 แสนล้านหยวน

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนเม.ย.อยู่ที่ระดับ 1.71 ล้านล้านเยน หรือ

ประมาณ 1.57 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติเกินดุลบัญชีเดินสะพัติดต่อกันเป็นเดือนที่ 58

สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของชาวญี่ปุ่นที่ประกอบอาชีพที่มีความอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐ

กิจเดือนพ.ค. ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ท่าม

กลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า ทางธนาคารกลางอาจมีการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมหากจำเป็น แต่ยัง

ไม่ใช่ขณะนี้เมื่อประเมินจากภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน

แท็ก ธนาคารกรุงเทพ เศรษฐกิจสหรัฐ เงินบาท

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.33/35 ระหว่างวันผันผวนแต่ทิศทางยังแข็งค่า คาดกรอบพรุ่งนี้ 31.20-31.40