พาณิชย์ เผยพ.ค.62 ยอดบริษัทตั้งใหม่เกือบ 6 พันราย ธุรกิจก่อสร้างครองแชมป์ คาดมิ.ย.โตต่อเนื่อง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 18, 2019 12:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือน พ.ค.62 ว่า ในเดือนเดือนพ.ค.นี้ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 5,942 ราย เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.61 จำนวน 5,865 ราย เพิ่มขึ้น 77 ราย คิดเป็น 1% และเมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.62 จำนวน 5,944 ราย ลดลง 2 ราย คิดเป็น 0.03%

สำหรับประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 530 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 371 ราย คิดเป็น 6% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร 164 ราย คิดเป็น 3% มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ รวมทั้งสิ้น 35,218 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 67% จากเดือนพ.ค.61 ซึ่งอยู่ที่ 21,090 ล้านบาท

ส่วนธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการในเดือนพ.ค.62 มีจำนวน 1,130 ราย เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.62 จำนวน 985 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 145 ราย คิดเป็น 15% และเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.61 จำนวน 1,014 ราย เพิ่มขึ้น 11% โดยประเภทธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 136 ราย คิดเป็น 12% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 75 ราย คิดเป็น 7% และธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร จำนวน 35 ราย คิดเป็น 3%

ทั้งนี้ ส่งผลให้ ณ วันที่ 31 พ.ค.62 มีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้นทั่วประเทศ 739,288 ราย มูลค่าทุน 16.73 ล้านล้านบาท

ส่วนแนวโน้มการจัดตั้งธุรกิจนั้น เมื่อประเมินจากอัตราการเติบโตของ GDP และแนวโน้มด้านเศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจตามฤดูกาล (Seasonal Trend) คาดว่าในเดือนมิ.ย.62 จะมีสถานการณ์การจัดตั้งธุรกิจเพิ่มสูงขึ้นจากเดือนพ.ค.62 และมียอดสะสมทั้งปีไม่น้อยกว่า 37,000 ราย

รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยังกล่าวถึงการลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าวว่า ในเดือนพ.ค.62 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น 47 ราย แบ่งเป็น ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 14 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ 33 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 6,599 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น 22 ราย เงินลงทุนกว่า 2,755 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ จีน 6 ราย เงินลงทุน 790 ล้านบาท และสิงคโปร์ 5 ราย เงินลงทุน 60 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบการเข้ามาลงทุนของชาวต่างชาติในเดือนพ.ค. กับเดือนเม.ย.62 ปรากฏว่า จำนวนธุรกิจที่คนต่างชาติเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น 9 ราย หรือคิดเป็น 24% ในขณะที่เงินลงทุนลดลง 3,292 ล้านบาท หรือคิดเป็น 33%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ