นายกฯ เปิดงาน CLMVT Forum 2019 หวังดันเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ของเอเชียและโลก

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 24, 2019 12:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน CLMVT Forum 2019 พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "CLMVT as the New Value Chain Hub of Asia หรือการผลักดันให้ CLMVT เป็นศูนย์กลางห่วงโซ่คุณค่ายุคใหม่แห่งเอเชีย" โดยกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร 11 องค์กร จัดเวทีแสดงศักยภาพของ 5 ประเทศในภูมิภาค CLMVT ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาเวียดนาม และไทย ร่วมปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตลอดจนเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างกัน พัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขัน เพื่อรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกในยุคสงครามการค้า และร่วมขับเคลื่อนภูมิภาคสู่การเป็นศูนย์กลางห่วงโซ่คุณค่ายุคใหม่แห่งเอเชีย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเล็งเห็นถึงศักยภาพของภูมิภาค CLMVT ในการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ของเอเชียและโลก โดยไทยยินดีที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม CLMVT Forum 2019 ภายใต้แนวคิดหลัก คือ การผลักดันให้ CLMVT เป็นศูนย์กลางห่วงโซ่คุณค่ายุคใหม่แห่งเอเชีย เพื่อขับเคลื่อนการสร้างความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดและแนบแน่นตลอดห่วงโซ่คุณค่า ทั้งภายใน CLMVT และภายนอก รวมทั้งเพื่อสร้างเครือข่ายของผู้นำทางธุรกิจ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การขับเคลื่อนของภาคเอกชนและภาควิชาการจะเป็นหลักช่วยเสริมสร้างความเจริญก้าวหน้าร่วมกันในภูมิภาค โดยภาครัฐจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกและวางรากฐาน ซึ่งที่ผ่านมาภาคเอกชนมีศักยภาพในการขยายธุรกิจ รวมทั้งยังเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือในด้านต่างๆ ถือว่ามีความโดดเด่นในฐานะศูนย์กลางการค้าการลงทุน ทั้งในภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ เนื่องจากการมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ภูมิภาค CLMVT มีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจอย่างแนบแน่นในเครือข่ายการผลิตของอาเซียนและเอเชีย และกลายเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่คุณค่าโลกอย่างไม่สามารถแยกออกจากกันได้ จึงกลุ่มประเทศ CLMVT จึงถือเป็นภูมิภาคที่ทั่วโลกให้การจับตามอง ทั้งยังเป็นแหล่งผลิตและตลาดสำคัญที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปี 2560 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) รวมของภูมิภาค CLMVT ขยายตัวสูงถึง 5.1% และระหว่างปี 2556-2560 ประเทศต่างๆ ในกลุ่ม CLMVT มีการค้ากับประเทศนอกกลุ่ม CLMVT ขยายตัวโดยเฉลี่ยสูงถึง 4.6% ต่อปี นอกจากนี้การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ CLMVT ด้วยกันยังขยายตัวโดยเฉลี่ยสูงถึง 7.1%

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภูมิภาคของเราต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ การแข่งขันของทุกประเทศทั่วโลก โดยการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 จะเข้ามาปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจในทุกๆภาคเศรษฐกิจ ดังนั้นต้องปรับตัว และต้องจับมือกันในการก้าวไปข้างหน้า และแบ่งปัน ไม่ใช่แข่งขันกันอย่างเดียว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาคเอกชนต้องมีการเตรียมความพร้อม และป้องกันความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในตลาดโลก เพื่อให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดและแข่งขันได้ โดย CLMVT ต้องยกระดับห่วงโซ่คุณค่าของภูมิภาค เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงในเครือข่ายการผลิตโลกได้ ทั้งในภาคการเกษตร อุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาธุรกิจการเกษตร สิ่งทอ ยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์

ทั้งนี้ ภาคบริการของภูมิภาค CLMVT ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ก่อให้เกิดการทำธุรกิจบริการรูปแบบใหม่ ส่งผลดีต่อทั้งผู้ผลิตสินค้า และผู้บริโภค ที่จะได้รับการบริการที่รวดเร็ว สะดวก และราคาถูกลง โดยธุรกิจในภาคบริการจะต้องหันมาประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการให้บริการมากขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลยึดมั่นในหลักการ "การเติบโตไปด้วยกัน" (stronger together) การมีส่วนร่วม และการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งการที่รัฐบาลไทยจัดงานประชุมในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมหลักการข้างต้น โดยประเทศในกลุ่ม CLMVT มีความสัมพันธ์อันดีมายาวนาน บนพื้นฐานของการให้ความเคารพในความหลากหลาย และการสร้างความเกื้อกูลกันด้วยการประสานผลประโยชน์แบบเท่าเทียม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ทุกคนใช้โอกาสจากการประชุมกันวันนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสร้างอนาคตของภูมิภาค CLMVT ที่เกิดจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดที่จะส่งเสริมให้ภูมิภาค CLMVT เติบโตไปด้วยกัน

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า งาน CLMVT FORUM 2019 จะเป็นเรื่องการสร้างห่วงโซ่อุปทานในกลุ่ม CLMVT (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม ไทย) ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นว่าการพัฒนาในกลุ่ม CLMVT มีความสำคัญท่ามกลางความไม่แน่นอนของสภาพเศรษฐกิจโลก โดยเห็นว่าไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเองใน CLMVT เนื่องจากมีกิจกรรมอีกมากทั้งในภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการที่กลุ่ม CLMVT สามารถจะแบ่งปันกันและเชื่อมโยงกันได้

"วันนี้เราจะหารือกันในเรื่องที่ว่าท่ามการสงครามการค้า และการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก ในภูมิภาค CLMVT มีอะไรที่จะทำให้เราสามารถกระชับความร่วมมือด้านการผลิต และสร้างห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคได้มากขึ้น" น.ส.พิมพ์ชนก กล่าว

สำหรับกลุ่ม CLMVT นับเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการค้าและการลงทุนที่น่าสนใจที่สุดในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก ด้วยจำนวนประชากรที่รวมกันกว่า 238 ล้านคน รายได้รวมกันกว่า 7.6 แสนล้านดอลลาร์ และมีอัตราการขยายตัวของ GDP ที่ 6.2% ในปี 2561 ที่ผ่านมา จึงทำให้ภูมิภาค CLMVT เต็มไปด้วยศักยภาพและโอกาสในการลงทุนเป็นอย่างมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ