ผู้ว่าฯธปท.ชี้แม้บังคับใช้มาตรการ LTV แต่สินเชื่อบ้าน 5 เดือนยังโต 15% ยันไม่กระทบผู้ซื้อบ้านหลังแรก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 10, 2019 16:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยันว่า การออกมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ที่เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ เม.ย.62 ที่ผ่านมานั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะทำให้คนที่ต้องการซื้อบ้านหลังแรกได้รับผลกระทบ ในทางกลับกัน มาตรการที่ออกมาต้องการช่วยคนที่อยากมีบ้านหลังแรก เพราะราคาบ้านของเดิมที่มีอุปสงค์ (demand) เทียม ทำให้ราคาบ้านโดยเฉพาะคอนโดมีเนียมเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้คนที่มีความต้องการจะซื้อจริงๆ ไม่สามารถซื้อได้ หรือซื้อไปในราคาที่สูงเกินควร

"มาตรการนี้เป็นมาตรการที่ค่อนข้างเบามากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ คือ การเพิ่มเงินดาวน์ สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยที่ไม่ใช่บ้านหลังแรก บ้านหลังแรกไม่ได้รับผลกระทบ ยืนยันอีกครั้งว่าเจตนาของเราไม่ต้องการให้คนที่ต้องการซื้อบ้านหลังแรกได้รับผลกระทบ ความจริงมาตรการที่ออกมานั้นช่วยคนที่อยากมีบ้านเป็นครั้งแรกด้วย" ผู้ว่าฯ ธปท.กล่าว

พร้อมระบุว่า มาตรการ LTV ช่วยให้ตลาดมีความสมดุลมากขึ้น เป็นตลาดที่สะท้อนความต้องการที่แท้จริงมากขึ้น และช่วยคนที่อยากจะซื้อบ้านหลัแรกให้สามารถซื้อได้ในราคาที่เหมาะสมขึ้น

นายวิรไท กล่าวด้วยว่า หากธปท.ไม่นำมาตรการดังกล่าวออกมาบังคับใช้ อาจจะเกิดปัญหาฟองสบู่แตกในภาคอสังหาริมทรัพย์ และจะส่งผลกระทบต่อทุกคนตามมา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่กู้ หรือไม่ได้กู้ รวมทั้งสร้างผลข้างเคียงอีกมาก เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์เป้นหลักประกันทางธุรกิจ เป็นสินทรัพย์ที่เป็นเงินออมก้อนสำคัญ อย่าคิดว่าราคาจะตกไม่ได้

"ฮ่องกงเป็นเกาะที่มีพื้นที่จำกัด ราคาอสังหาริมทรัพย์ยังลดลง 20% ในปีเดียว เพราะฉะนั้นในกรณีของไทย ถ้ามีดีมานด์เทียมเยอะ ๆ และปล่อยให้เกิดเป็นฟองสบู่ขึ้น ก็จะส่งผลกระทบต่อราคาอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตได้" ผู้ว่าฯ ธปท.ระบุ

อย่างไรก็ดี สำหรับยอดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ในเดือนเม.ย.62 ปรับลดลงบ้าง แต่ส่วนสำคัญเป็นเพราะมีการเร่งกู้ในเดือนม.ค.-มี.ค. ก่อนที่มาตรการ LTV จะเริ่มมีผลในวันที่ 1 เม.ย.62 ซึ่งหากพิจารณาในภาพรวมช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) จะพบว่าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยทั้งประเทศ ยังเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

"ตลาดที่อยู่อาศัยไม่ได้ลดลง สินเชื่อที่อยู่อาศัยยังโต 15% ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ แต่ถ้าดูข้อมูลเดือน เม.ย. – พ.ค. บ้านหลังแรกและบ้านแนวราบโดยรวมไม่ได้ถูกผลกระทบ คอนโดมิเนียมที่เป็นสัญญาที่ 2 ที่ 3 ขึ้นไป เห็นว่ายอดขายลดลง จากข้อมูลผลเป็นไปตามที่คาดไว้ ที่สำคัญคือถ้าดูเงินเดือนของคนที่กู้สัญญาที่ 3 ช่วงที่มีการเก็งกำไร รายได้ของคนกู้สัญญาที่ 3 ลดลงมากจากเดิมรายได้เคยอยู่ที่ 2.5 แสนบาท ลดลงเหลือ 1.4 แสนบาท วันนี้รายได้ของคนที่เข้ามาซื้อหรือขอกู้สัญญาที่ 3 เริ่มขยับสูงขึ้น สะท้อนว่า ถ้าคุณจะเก็งกำไรคุณต้องมีรายได้มากพอที่จะรับความเสี่ยง โดยรวมผลเป็นไปตามที่คาด" ผู้ว่าฯ ธปท.กล่าว

พร้อมระบุว่า ขณะนี้อาจยังเร็วเกินไปที่จะประเมิน เพราะมาตรการ LTV เพิ่งมีผลบังคับใช้เพียง 2 เดือน และมีผลของการเร่งกู้ในช่วง 3 เดือนแรกก่อนที่มาตรการจะมีผลบังคับใช้ด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ