นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.87/88 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.84 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศออกมาไม่ค่อยดี คือ การส่งออกในเดือนมิ.ย.62 ที่หด ตัว 2.41% โดยยังคงติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม คือการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)
"บาทมีแนวโน้มอ่อนค่า เพราะตัวเลขส่งออกที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ไม่ค่อยดีนัก" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.85-30.95 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (22 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.42492% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.38570%
SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 30.9175 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.04/05 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 107.86 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1187/1211 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1215 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.8490 บาท/ดอลลาร์
- "โบรกเกอร์" ทยอยปรับ ลดกำไรกลุ่มแบงก์ปีนี้ เหลือ 2.2-5% จากเดิมคาดจะโต 6% แม้ภาพรวมไตรมาส2 "ดีกว่า
คาด" แต่ผลดำเนินการ "แบงก์กรุงเทพ" ฉุดภาพรวม หลังสินเชื่อโตต่ำเป้า รายได้ส่วนต่างดอกเบี้ยลดลง ผู้บริหารคาดครึ่งปีหลัง
สถานการณ์ดีขึ้น หวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนสินเชื่อโต
- "บอร์ดทีเอ็มบี" เรียกประชุมวาระพิเศษ 1 ส.ค.นี้ อนุมัติแผนควบรวมกิจการกับแบงก์ธนชาต ก่อนเปิดแถลงข่าวในวันที่
2 ส.ค. เผยขั้นตอนต่อไปเสนอให้คลังอนุมัติเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน และส่งเรื่องให้ธปท.อนุมัติแผนรวมกิจการ
- 'สุริยะ' จ่อคุยเจโทร ถกปัญหาของนักลงทุนต่างชาติ พร้อมหาโอกาสดึงดูดการลงทุน หลังกระแสข่าวชี้ชัด 4 เอกชนยักษ์
จีนเตรียมย้ายฐานลงทุนมาไทย
- รมว.คลัง เปิดเผยถึงแนวทางการปรับลดภาษีบุคคลธรรมดา 10% ตามที่รัฐบาลหาเสียงไว้ ว่า ได้มอบหมายให้สำนักงาน
เศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ศึกษาเรื่องนี้ โดยให้ดูทั้งระบบว่าจะทำให้ฐานภาษีและรายได้หายไปมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการปรับภาษีจะต้องทำ
เป็นขั้นเป็นตอนและต้องดูภาพรวมทั้งระบบ ซึ่งยังไม่เคยบอกว่าต้องขึ้นภาษีตัวอื่นเพื่อมาชดเชยการลดอัตราภาษีบุคคลธรรมดา 10%
- ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการโมเดิร์น
เทรด (MTSI) ไตรมาส 2 ปี 2562 เกินกว่า 50 ทุกรายการไม่ว่าจะเป็นรายรับจากการขายหรือให้บริการ กำไรจากการขายหรือ
บริการ จำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการ ราคาขายสินค้าโดยรวมเฉลี่ย การจ้างงาน ยกเว้นต้นทุนค่าดัชนีอยู่ในระดับ 48.2 โดยดัชนีปัจจุบันอยู่ที่
ระดับ 51.2 และอนาคตในช่วง 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 51.1 ดังนั้นเศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวใกล้เคียงร้อยละ 2.8-3.0 และ
ครึ่งปีแรกจะขยายตัวร้อยละ 2.9-3.0
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุว่า การส่งออกของไทยยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว เช่นเดียว
กับหลายประเทศในภูมิภาคที่มูลค่าการส่งออกหดตัวต่อเนื่อง และหากพิจารณาอัตราการขยายตัวของมูลค่าส่งออกในเดือน มิ.ย.62 พบว่าใน
หลายประเทศมีทิศทางหดตัวมากขึ้นจากตัวเลขในเดือน พ.ค.62 ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเกิดจากสงครามการค้าที่ยกระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้น ซึ่ง
เดือน มิ.ย.62 เป็นเดือนแรกที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คงประมาณการส่งออกสินค้าไทยตลอดทั้งปี 2562 ที่ 0.0% ยังมีประเด็นที่ต้องติดตามซึ่งอาจจะกระทบ
ต่อเส้นทางการส่งออกสินค้าไทยในช่วงที่เหลือของปี 62 ได้ ไม่ว่าจะเป็นทิศทางการแข็งค่าของเงินบาทที่ส่งผลต่อความสามารถในการแข่ง
ขัน สภาพภูมิอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่อาจจะกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตร รวมไปถึงความไม่แน่นอนในเรื่อง
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในระยะข้างหน้า
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) โดย
ได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.25% ในการประชุมเดือนนี้
แทนที่จะปรับลด 0.50% ตามที่มีกระแสคาดการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงเนื่องจากความกังวลที่ว่า นายบอริส จอห์นสัน
อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษอาจจะได้รับการประกาศชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของอังกฤษ ซึ่งจะทำให้อังกฤษมีแนวโน้มที่จะแยกตัว
ออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันที่ 31 ต.ค. โดยไม่มีการทำข้อตกลง
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยหนุน
แรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผล
ให้ทองคำมีความน่าดึงดูดน้อยลง
- นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อรอดูว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน
นี้ หรือจะรอจนถึงเดือนก.ย. พร้อมกับจับตาถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ภายหลังการประชุมดังกล่าว
- นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ค., ยอดขายบ้านมือสอง
เดือนมิ.ย., ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค.จากเฟดริชมอนด์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.ค.จากมาร์กิต,
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ค.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
รายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2562
- นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 30-31 ก.ค.นี้อย่างใกล้ชิด โดยมีการ
คาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมวันที่ 30-31 ก.ค.นี้ ซึ่งอัตราส่วนการคาดการณ์ดังกล่าวลดลง
จากก่อนหน้านี้ที่มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50%