"โอลิมปัส แคปปิตอล เอเชีย" เข้าซื้อหุ้น 25% ในธนาคารไทยเครดิตฯ หนุนเพิ่มความแข็งแกร่งสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 24, 2019 10:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โอลิมปัส แคปปิตอล เอเชีย (โอซีเอ) เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าซื้อหุ้น 25% ของธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย ซึ่งเป็นธนาคารที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในประเทศไทย และเป็นผู้นำตลาดในด้านการปล่อยสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ของประเทศ จากการร่วมทุนครั้งนี้ จะทำให้บริษัทกลายเป็นผู้ลงทุนภายนอกที่ใหญ่ที่สุด และผู้ถือหุ้นปัจจุบันยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด โดยตัวแทนจากโอลิมปัส แคปปิตอล จะเข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการธนาคาร

ทั้งนี้ โอซีเอ ได้ทำการเข้าซื้อหุ้นของธนาคารไทยเครดิตฯ จาก โพลาลิส แคปปิตอล ซึ่งบริหารงานโดยกลุ่มบริษัทนอร์ทสตาร์

โอลิมปัส แคปปิตอล เป็นบริษัทลงทุนอิสระระดับภูมิภาคที่ลงทุนในหุ้นบริษัทเอกชนที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยมีการลงทุนทั่วทวีปเอเชียรวมถึงประเทศไทยเป็นเวลานานกว่า 20 ปี การลงทุนกับภาคบริการทางการเงินครอบคลุมถึงการปล่อยสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์และสินเชื่อเอสเอ็มอี โดยมีสัดส่วนรวมถึง 1 ใน 3 ของเงินลงทุน ทำให้โอซีเอได้พัฒนาธุรกิจที่มีความแตกต่างในอุตสาหรรม มีทีมนักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ เครือข่ายที่ปรึกษาอาวุโสที่แข็งแกร่งซึ่งต่างก็เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมและมีสัมพันธภาพทั่วทุกภูมิภาค

นายโกลาฟ มาลิค กรรมการ บริษัท โอลิมปัส แคปปิตอล และผู้บริหารสูงสุดร่วมของกลุ่มบริการทางการเงิน กล่าวว่า ธนาคารไทยเครดิตฯ ประสบความสำเร็จในการเอาชนะความท้าทายในการให้บริการทางการเงินให้แก่กลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบของประเทศไทยได้ ด้วยการดำเนินธุรกิจที่แตกต่าง

โอลิมปัส แคปปิตอล มุ่งเน้นการลงทุนในภาคบริการทางการเงิน ดำเนินธุรกิจด้วยความเชี่ยวชาญและมีผลงานที่โดดเด่นในการสร้างมูลค่าให้แก่บริษัทที่โอลิมปัส แคปปิตอลได้เข้าร่วมทุน ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับเครดิต แอ็กเซส เอเชีย ซึ่งเป็นบริษัทไมโครไฟแนนซ์ที่โอลิมปัส แคปปิตอลได้เข้าร่วมทุน ในการนำเครดิตแอ๊กเซส กราเมีย เข้าตลาดหลักทรัพย์อินเดีย บริษัทมุ่งมั่นที่จะร่วมงานกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่และคณะผู้บริหารระดับสูงของธนาคารในการสร้างรากฐานที่มั่นคงและการเติบโตอย่างรวดเร็วแก่ธนาคาร

ด้านนายแดเนียล มินซ์ กรรมการผู้จัดการซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งโอลิมปัส แคปปิตอล กล่าวว่า มีความเชื่อมั่นว่าธนาคารไทยเครดิตฯ มีโอกาสทางธุรกิจที่โดดเด่นในการรักษาความเป็นผู้นำตลาด ด้วยการขยายการให้บริการทางการเงินที่ครบวงจร การเปลี่ยนถ่ายไปสู่ระบบดิจิทัล การนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเพื่อเพิ่มความพึงพอใจ รวมถึงการลดขั้นตอนการปฎิบัติงาน โดยเชื่อมั่นในกลยุทธ์ของธนาคารที่มีเครือข่ายสาขาสินเชื่อโดยเฉพาะ และการมีข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดร่วมกับบริษัทผู้ริเริ่มนวัตกรรมใหม่ ๆ

นายวิญญู ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารไทยเครดิตฯ กล่าวว่า ธนาคารมีความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าไมโครไฟแนนซ์และไมโครเอสเอ็มอีซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก มีความยินดีในการร่วมทุนกับโอลิมปัส แคปปิตอล ด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญและผลงานที่สั่งสมมาบวกกับความเชี่ยวชาญของคณะผู้บริหารธนาคาร ทำให้เชื่อมั่นว่าธนาคารไทยเครดิตฯ จะสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดเพื่อให้บริการทางการเงินอย่างทั่วถึงแก่กลุ่มลูกค้าของธนาคาร

นายรอย ออกุสตินัส กุนารา กรรมการผู้จัดการธนาคารไทยเครดิตฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ธนาคารดำเนินธุรกิจที่แตกต่างได้อย่างโดดเด่น และคาดหวังที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยเงินทุนของโอลิมปัส แคปปิตอล จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์และบริการทางการเงินทั่วไปของโอลิมปัส แคปปิตอล ธนาคารเล็งเห็นโอกาสในความร่วมมือกับผู้ถือหุ้นรายใหม่ในการสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจโดยเฉพาะนวัตกรรมด้านดิจิทัล

ธนาคารไทยเครดิตฯ ได้รับการอนุญาตจัดตั้งเป็นธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อยในปี 49 มุ่งเน้นการขยายธุรกิจประเภทสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์และสินเชื่อเพื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี ด้วยการให้โอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนแก่ผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด ผู้ประกอบการขนาดเล็ก เจ้าของร้านอาหารรายย่อย รวมถึงอาชีพอิสระที่มีข้อจำกัดและไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ ธนาคารเป็นผู้นำตลาดสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ในประเทศไทย และเป็นธนาคารที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในประเทศ โดยมีสินเชื่อคงค้างรวมกว่า 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ

ธนาคารไทยเครดิตฯ ได้พัฒนาเทคโนโลยีด้านระบบการวิเคราะห์สินเชื่อและระบบการติดตามทวงหนี้ และจะมีการเปิดให้บริการกระเป๋าเงินอิเลคทรอนิกส์ (e-wallet) ในครี่งปีหลังของปี 62 รวมถึงการเพิ่มบริการทางการเงินในระบบดิจิทัลใหม่ ๆ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ