นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.77/81 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.83 บาท/ดอลลาร์
วันนี้คาดว่าเงินบาทจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เพราะตลาดรอผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่มีขึ้นในระหว่างวันที่ 30-31 ก.ค. และจะทราบผลในวันพรุ่งนี้ โดยตลาดเชื่อว่ารอบนี้ FOMC คงจะปรับลด ดอกเบี้ยลง 0.25%
"วันนี้บาทคงวิ่งแคบๆ ตลาดรอผลประชุม FOMC คงไม่มีปัจจัยอะไรมากไปกว่านี้ ครั้งนี้คาดว่าคงลดดอกเบี้ยลง 0.25%" นัก
บริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.75-30.85 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (30 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.39111% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.38014%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.52 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อวานเย็นที่ระดับ 108.79 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1153 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อวานเย็นที่ระดับ 1.1153 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.8280 บาท/ดอลลาร์
- ครม.อนุมัติตั้ง ครม.เศรษฐกิจ นายกฯนั่งหัวโต๊ะประชุม 11 กระทรวง ตั้ง "กอบศักดิ์" เลขานุการ ขับเคลื่อนนโยบาย
เศรษฐกิจ นายกฯสั่งเดินหน้ากระตุ้นบริโภค-ท่องเที่ยว คาดเริ่มประชุมนัดแรก สัปดาห์หน้า
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ออกประกาศการประมูลพันธบัตร(บอนด์)เดือนส.ค.2562 โดยพบว่า ในเดือนดังกล่าว
ธปท. ได้ปรับลดวงเงินการออกบอนด์ระยะสั้นลงอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการลดต่อเนื่องเดือนที่สอง โดยบอนด์ที่ออกในเดือนส.ค.2562 พบว่า
ธปท. ลดวงเงินในรุ่นอายุ 3 เดือนและ 6 เดือน เหลือ 3-3.5 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ จากเดิมทั้ง 2 รุ่นอยู่ที่ 3.5-4 หมื่นล้านบาท
ตามลำดับ หรือลดลงรุ่นละ 5 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ธปท. ได้เพิ่มการออกบอนด์ระยะยาวรุ่นอายุ 1 ปี เพิ่มเป็น 4 หมื่นล้านบาท เทียบกับเดือนก.ค.ที่มีวงเงิน การประมูล 3.5 หมื่นล้านบาท
- "แบงก์ชาติ" เตรียมประกาศ ใช้เกณฑ์คุม "ภาระหนี้ต่อรายได้" ปลายปีนี้ หวังสกัดหนี้ครัวเรือนที่เร่งตัวขึ้น ด้าน "นาย
แบงก์" เผยห่วง "3 กลุ่มเสี่ยง" คาดกลุ่มรายได้ต่อเดือนต่ำ 3 หมื่นบาท ก่อหนี้ไม่เกิน 70% พร้อมคุมความเสี่ยงกลุ่มเด็กจบใหม่-คนวัย
เกษียณ "ปรีดี" ยอมรับแม้กระทบธุรกิจ แต่ส่งผลดีระยะยาว
- เลขาธิการสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า สถานการณ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 พบว่ามี
การเติบโตสูงมาก จากการเร่งโอนก่อนการบังคับใช้มาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่ (แอลทีวี) ทำให้แนวโน้มต่อจากนี้คาดว่าผู้พัฒนาที่
อยู่อาศัยจะเปิดตัวโครงการใหม่ๆ น้อยลง แต่เชื่อว่ายังสามารถเติบโตได้ เนื่องจากต้องมีการลงทุนในปีต่อๆ ไป คาดว่าสินเชื่อจะเติบโต
ได้ไม่ต่ำกว่า 5% โดยสินเชื่อบ้านหลังแรกจะโตไม่ต่ำกว่า 10% สินเชื่อบ้านหลังที่ 2-3 จะโตลดลงจากมาตรการแอลทีวี รวมถึงการรี
ไฟแนนซ์เพื่อนำไปปลดภาระเงินกู้เก่าที่มีอยู่ที่จะเพิ่มขึ้นสูง
- "สมคิด" นำทัพจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น-ปานกลาง เล็งเข็นใช้ปลายเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ ส่งแบงก์รัฐออก
โรง เน้นช่วยเหลือประชาชน "คลัง" โชว์ผลงานจัดเก็บรายได้รัฐบาลช่วง 9 เดือนปีงบประมาณ 2562 อยู่ที่ 1.93 ล้านล้านบาท
- ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกล่าวว่า ได้รายงานให้ที่ประชุม ครม.รับทราบถึงการจัดทำกรอบงบประมาณประจำปีงบ
ประมาณ 63 โดยได้ปรับปฏิทินงบประมาณใหม่ให้เป็นไปตามสถานการณ์ปัจจุบันภายหลังจากรัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปแล้ว โดยใน
ช่วง 1-2 วันนี้ สำนักงบประมาณจะนัดกระทรวงการคลังหารือถึงกรอบงบประมาณทั้งหมดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวเลขไปจากกรอบเดิม
หรือไม่ ทั้งงบประมาณรายจ่าย 3.2 ล้านล้านบาท การขาดดุลงบประมาณ 450,000 ล้านบาท และประมาณการรายได้ 2.75 ล้านล้าน
บาท หากกระทรวงการคลังยังยืนยันกรอบเดิม สำนักงบประมาณจะเสนอเรื่องไปให้ ครม. เห็นชอบในวันที่ 6 ส.ค.นี้
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งชะลอลงหลังจากเพิ่มขึ้น
0.5% ในเดือนพ.ค.
- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย
(pending home sales) เพิ่มขึ้น 2.8% สู่ระดับ 108.3 ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน โดยปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 จากระดับ
105.4 ในเดือนพ.ค.
- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.)
ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า
เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงเนื่องจากความกังวลว่า อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป
(Brexit) โดยไม่มีการทำข้อตกลง
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับกระแสคาด
การณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ การอ่อนแรง
ลงของตลาดหุ้นสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
- นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้
ตามเวลาไทย ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้
- นักลงทุนยังจับตาการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีน ซึ่งเริ่มขึ้นในวันนี้ และจะสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้
- ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้
จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการ
ผลิตเดือนก.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้าง
เดือนมิ.ย., ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค., ดุลการค้าเดือนมิ.ย., ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานมิ.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภค
เดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
- ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่
ระดับ 135.7 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว หลังจากร่วงลงแตะระดับ 124.3 ในเดือนมิ.ย. และสูงกว่า
ตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 124.8