ภาวะตลาดเงินบาท: เย็นนี้อยู่ที่ 30.76 ระหว่างวันแกว่งแคบ-ไร้ปัจจัยหนุน ตลาดรอผลประชุม FOMC ส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 31, 2019 16:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเย็นนี้อยู่ที่ 30.76 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.77/81 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 30.76 - 30.81 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดรอดูผลการประชุมคณะ กรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) คืนนี้ว่าจะส่งสัญญาณต่อทิศทางดอกเบี้ยในอนาคตอย่างไร เนื่องจากเป็น การปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 10 ปี

"วันนี้บาทแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ช่วงท้ายตลาดลงมาแข็งค่า น่าจะมาจากแรงซื้อดอลลาร์จากผู้นำเข้าหมด ตลาดรอดูผล ประชุม FOMC คืนนี้เป็นสำคัญ" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดวันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.70 - 30.85 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 30.7688 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 108.56 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.52 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1146 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1153 ดอลลาร์/ยูโร
  • รมว.คลัง และคณะ ได้พบ รมว.เศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เพื่อกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่าง
ไทยกับญี่ปุ่น รวมทั้งสร้างความมั่นใจในการสานต่อนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมในเขต
เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ซึ่งญี่ปุ่นได้มีส่วนร่วมในโครงการลงทุนต่างๆ ใน EEC ด้วย
  • รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานเตรียมทบทวนแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ปี 2561-2580
(PDP2018) เพื่อให้มีการกระจายพลังงานไปสู่ชุมชนมากขึ้น รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ใช้พลังงานเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าได้ ตลอดจนจะมีการพิจารณา
ข้อเสนอของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่เห็นว่ารัฐมีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 51% ภายใน 10 ปีนับจากปี 2562 รวมถึงการพิจารณา
ประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยเศรษฐกิจไทยเดือนมิ.ย.2562 ชะลอจากเดือนก่อนจากอุปสงค์ทั้งในและต่าง
ประเทศ โดยการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวชะลอลงในเดือบทุกหมวด ขณะที่เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนหดตัว และการใช้จ่ายภาครัฐหด
ตัวทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน ด้านการส่งออกสินค้า การนำเข้าสินค้า และการผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวต่อเนื่อง สำหรับภาค
การท่องเที่ยวขยายตัวเล็กน้อยจากนักท่องเที่ยวอินเดียเป็นสำคัญ ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนยังหดตัว
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี (TMB Analytics) คาดว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ใน
สัปดาห์หน้าจะยังคงดอกเบี้ยนโยบายต่อไปที่ 1.75% จากความกังวลความเปราะบางต่อเสถียรภาพระบบการเงินเป็นเหตุผลหลัก แม้
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันนี้ 31 ก.ค.62
  • ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของมูลค่าส่งออกของ
ไทยในปี 2562 โดยคาดว่าจะขยายตัว 0.2% หลังจากในช่วงครึ่งแรกปี 2562 มูลค่าส่งออกของไทยหดตัวถึง 2.9% เป็นผลของสงคราม
การค้าที่ยังยืดเยื้อระหว่างสหรัฐฯ-จีน ทำให้สินค้าส่งออกของไทยในห่วงโซ่การผลิตและพึ่งพาตลาดจีนสูงหดตัวต่อเนื่อง อาทิ คอมพิวเตอร์
และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เม็ดพลาสติก
  • จีนจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่จะใช้นโยบายการคลังอย่างมี
ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งคงระดับสภาพคล่องให้เพียงพออย่างเหมาะสมในช่วงครึ่งปีหลังนี้
  • คณะทำงานของรัฐบาลญี่ปุ่นได้เสนอให้มีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยเป็น 901 เยน หรือ 8.3 ดอลลาร์ ในปี
งบประมาณ 2562 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่า 900 เยนเป็นครั้งแรก เนื่องจากญี่ปุ่นจะเก็บภาษีการบริโภคเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค.นี้
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่

สำคัญ ปรับตัวขึ้นสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางออสเตรเลีย ซึ่ง

ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยังคงมีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก หลังจากที่ปรับลดลงไปแล้วสู่ระดับต่ำสุดเป็น

ประวัติการณ์ที่ 1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ