นายเดวิด แมคคอร์มิค รมช.คลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศของสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐยังคงเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ และแนะนำให้มีการรวมกลุ่มกันสร้างความแข็งแกร่งเพื่อสกัดกั้นแรงกดดันด้านระบบกีดกันทางการค้า และขจัดความวิตกกังวลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในประเทศ
"แรงกดดันด้านการกีดกันทางการค้าที่เกิดขึ้นนั้นส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขาดข้อมูลความรู้และความเข้าใจด้านกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ เนื่องจากการดำเนินงานของกองทุนดังกล่าวยังขาดความโปร่งใสและการขาดการสื่อสารที่ชัดเจน" แมคคอร์มิคกล่าว
โดยเขากล่าวเสริมว่า คณะกรรมาธิการด้านการลงทุนต่างชาติในสหรัฐกำลังจับตาการทำงานของกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติบนพื้นฐานของการพิจารณาถึงความวิตกกังวลต่อเสถียรภาพในประเทศอย่างแท้จริง
นายแมคคอร์มิคกล่าวว่า แม้ว่าสินทรัพย์มูลค่า 1.9-2.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติอาจดูว่าเป็นจำนวนเงินที่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ทั่วโลกที่มีอยู่ประมาณ 190 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยอดเงินดังกล่าวยังคงมีจำนวนสูงกว่าสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของกองทุนประกันความเสี่ยง หรือกองทุนไพรเวทอิควิตี้ที่คาดว่าจะขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ เขาเน้นย้ำว่า ข้อเรียกร้องของกระทรวงคลังที่ต้องการให้นานาประเทศประสานความร่วมมือในการพัฒนากรอบการทำงานระดับพหุภาคีเพื่อทำให้เกิดผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยนายแมคคอร์มิคได้เรียกร้องให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ธนาคารโลก และองค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจเข้ามามีบทบาทในความพยายามครั้งนี้มากขึ้น สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์:
[email protected]