สอน.เผยขึ้นภาษีความหวานกระทบราคาอ้อยและน้ำตาลไม่มากเท่าปัจจัยด้านอื่น

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 1, 2019 13:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางวรวรรณ ชิตอรุณ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องของผลกระทบจากการขึ้นภาษีความหวานอาจทำให้ภาคเอกชนหลายรายเปลี่ยนสูตรการผลิตสินค้า โดยใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ซึ่งในอนาคตจะทำให้ความต้องการอ้อยที่นำมาใช้ผลิตน้ำตาลลดลง หวั่นส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ว่า การขึ้นภาษีดังกล่าวเป็นเพียงสาเหตุหนึ่งเท่านั้น

ทั้งนี้ หากพิจารณาจากปริมาณการบริโภคน้ำตาลทรายภายในประเทศตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งมีปริมาณการบริโภคอยู่ที่ 2.6 ล้านตัน ปี 61 มีปริมาณการบริโภคอยู่ที่ 2.5 ล้านตัน และในปี 2562 จนถึงปัจจุบัน มีการบริโภคน้ำตาลทรายไปแล้ว (ตั้งแต่เดือนมกราคม – เดือนกรกฎาคม) จำนวน 1.46 ล้านตัน และไทยคาดว่าจะมีปริมาณการบริโภคในปีนี้ประมาณ 2.6 ล้านตัน

นางวรวรรณ กล่าวว่า จะเห็นได้ว่าจากการการบริโภคน้ำตาลทราย 3 ปีที่ผ่านมามีปริมาณใกล้เคียงกัน ซึ่งการบริโภคน้ำตาลทรายภายในประเทศจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือผู้บริโภคโดยตรงและผู้บริโภคโดยอ้อม โดยปริมาณการจำหน่ายน้ำตาลให้กับผู้บริโภคโดยอ้อมเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2561 มีปริมาณการจำหน่ายอยู่ที่ 5.8 แสนตัน และปริมาณการจำหน่ายในปี 62 อยู่ที่ 5.7 แสนตัน จะเห็นได้ว่ามีปริมาณใกล้เคียงกันโดยลดลงราว 10,000 ตัน

และจากสถานการณ์อ้อยและน้ำตาลของไทยในช่วงที่ผ่านมา พบว่า มีการขยายตัวของพื้นที่ปลูกอ้อยซึ่งมีปริมาณอ้อยเข้าหีบและผลผลิตน้ำตาลสูงขึ้นต่อเนื่องโดยเฉลี่ย 12-14 % ในขณะที่ปริมาณการบริโภคน้ำตาลในประเทศและการส่งออกน้ำตาลมีอัตราการขยายตัวค่อนข้างคงที่ ประมาณ 5-6% ต่อปี ส่งผลให้ปริมาณสต็อกน้ำตาลของไทยเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับภาวะราคาอ้อยและราคาน้ำตาลในตลาดโลกยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ยิ่งเป็นแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลของไทย และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของราคาอ้อยที่ตกต่ำ ซึ่งการขึ้นภาษีความหวานอาจเป็นเพียงสาเหตุหนึ่งเท่านั้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ