นักวิเคราะห์คาดศก.สิงคโปร์ชะลอตัวปีนี้ แต่จะต้านทานศก.ขาลงของสหรัฐได้

          นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์อาจชะลอตัวลงในปีนี้ ซึ่งเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ซบเซา แต่อุตสาหกรรมก่อสร้างและการบริการที่แข็งแกร่งจะช่วยพยุงให้สิงคโปร์สามารถรอดพ้นจากวิกฤตการณ์เลวร้ายได้
          รัฐบาลได้ปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ในปีนี้ลงมาอยู่ที่ระดับ 4.0-6.0% จากระดับ 4.5-6.5% เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยเสี่ยงช่วงขาลงที่มีเพิ่มมากขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐที่สั่นคลอนซึ่งจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
          ราวี เมนอน รมช.การค้าและอุตสาหกรรม(MTI)ของสิงคโปร์กล่าวว่า "สิ่งที่เรารู้ดีคือ เศรษฐกิจสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะชะลอตัวลงแล้ว และความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะยังคงส่งผลในระยะยาว"
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสที่สี่ของปีที่ผ่านมาที่ขยายตัวในระดับ 5.4% ต่อปีนั้น ยังอยู่ต่ำกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นผลจากตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมที่อ่อนแอ โดยเมื่อเทียบเป็นรายปีพบว่า GDP ไตรมาสสี่ของสิงคโปร์ปรับตัวลดลง 4.8% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ปรับตัวลดลง นับตั้งแต่ไตรมาสสองของปี 2546 แต่ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา GDP ขยายตัวขึ้น 7.7% ซึ่งสูงกว่าระดับที่คาดการณ์เบื้องต้นไว้ที่ 7.5%
          ซอง เซง วอน นักวิเคราะห์จาก CIMB-GK Research กล่าวว่า "อุตสาหกรรมด้านเภสัชกรรมเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ภาคอุตสาหกรรมการผลิตปรับตัวลดลงเนื่องจากเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่"
          ทั้งนี้ ตัวเลขในภาคอุตสาหกรรมการผลิตไตรมาสที่สี่ปรับตัวลดลง 24.9%  ต่อปีจากช่วงไตรมาสที่สาม เนื่องจากการผลิตด้านเวชภัณฑ์ชีวภาพ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ยาและเทคโนโลยีทางการแพทย์ร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากโรงงานหลายแห่งได้ปิดตัวลง   
          อย่างไรก็ตาม นายเดวิด โคเฮน นักวิเคราะห์จากแอ็คชั่น อีโคโนมิกส์กล่าวว่า ตัวเลขผลผลิตในธุรกิจเภสัชกรรมอาจฟื้นตัวดีขึ้นอย่างเร็วที่สุดในไตรมาสแรกของปีนี้