นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 30.77 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.81 บาท/ดอลลาร์
ขณะที่ดอลลาร์ยังเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทาง เนื่องจากตลาดมีความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน และ ทิศทางค่าเงินหยวน ส่วนปัจจัยในประเทศเป็นการแถลงตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และทิศทางการเคลื่อนย้ายของเงินทุนต่าง ประเทศ
"บาทแข็งค่าจากช่วงท้ายตลาดเย็นวานนี้ การประกาศปรับลดดอกเบี้ยของ กนง.นั้นตลาดไม่ตอบรับเท่าที่ควร" นัก
บริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ระหว่าง 30.75-30.85 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (7 ส.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.46294% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.26530%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 106.16 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 106.25 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1204 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1183 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.775 บาท/
ดอลลาร์
- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประชุมเมื่อวานนี้ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
0.25% จาก 1.75% เป็น 1.50% ต่อปี โดยให้มีผลทันที เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ และต่ำกว่าศักยภาพ
โดยการส่งออกหดตัวมากกว่าที่ประเมินไว้ ขณะที่ 2 เสียงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ต่อปี ขณะ "แบงก์รัฐ" ส่อปรับ
ดอกเบี้ยตาม ด้านเงินบาทไม่สะเทือน อ่อนค่าลงแค่เล็กน้อย
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในการ
ประชุมวันนี้(7 ส.ค.) ลงมาที่ 1.50% จาก 1.75% ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี สอดคล้องกับจังหวะและทิศทางของ
อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และอีกหลายๆ ประเทศ ซึ่งได้ทยอยผ่อนคลายนโยบายการเงินไปก่อนหน้านี้ เพื่อรับ
มือกับความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางความไม่แน่นอนของหลายๆ ปัจจัยที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเด็นเรื่องสงครามการค้า
ของสหรัฐฯ และจีน
- "ทีเอ็มบี-ธนชาต" ซึ่งมีแผนจะควบรวมระหว่างกัน เลื่อนเซ็นสัญญาเป็นวันนี้หรือช้าสุดวันพรุ่งนี้ หลังข้อสัญญาบางส่วนยังไม่
เรียบร้อย ขณะแบงก์ใหม่ใช้ชื่อ ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต โดย "ไอเอ็นจี" ถือหุ้นใหญ่ 21% รองลงมา "ทุนธนชาต" ถือ 20% ส่วน "คลัง"
ถือ 18% ยืนยันไม่ปลดพนักงาน
- กกร.คงคาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ประเทศไทย ในปี 2562 ไว้ที่ 2.9-3.3% ส่วนการส่งออก
คาดว่าจะติดลบ 1 ถึง -1% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไป จะเพิ่มขึ้น 0.8-1.2% โดยประเมินว่าทิศทางเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 มีแนวโน้ม
ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2562 ที่จีดีพีโต 2.8% เนื่องจากการส่งออกและการใช้จ่ายภายในประเทศ มีสัญญาณที่อ่อนแรง
ลงอย่างต่อเนื่อง
- รมว.คลัง ชงแผนกระตุ้นเข้าครม.เศรษฐกิจ 19 ส.ค.นี้ คาดมีเม็ดเงินเข้าระบบ 1.7 แสนล้านบาท "สมคิด" จี้ "คลัง-
คมนาคม" ผนึกกำลังปลุกรัฐวิสาหกิจเร่งลงทุน ลั่นตามผลงานในอีก 2 เดือนข้างหน้า
- จีนกำหนดอัตราค่ากลางเงินหยวนในวันนี้ที่ระดับ 7.0039 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.
ย.2551
- เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.)
เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการที่อังกฤษอาจแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีข้อตกลงในช่วง
ปลายเดือนต.ค.นี้ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ อันเนื่องมาจากความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้า
ระหว่างสหรัฐและจีน
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความเรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งการปรับลดอัตรา
ดอกเบี้ย เพื่อให้ตามทันธนาคารกลางแห่งอื่นๆทั่วโลก
- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 1.21 ล้านล้านเยน
หรือ 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติเกินดุลติดต่อกันเป็นเดือนที่ 60