นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ท่องเที่ยวขณะนี้ได้รับผลกระทบจากค่าเงินหยวนอ่อนค่า ทำให้นักท่องเที่ยวจีนมีค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้น 20% ขณะเดียวกันเงินบาทก็แข็งค่า และที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดหลายจุดในกรุงเทพมหานคร (กทม.) ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความไม่มั่นใจ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัท แต่จะมากหรือน้อยก็ต้องรอดูสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม เหตุเกิดระเบิดครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผ่านมาธุรกิจท่องเที่ยวก็เคยประสบเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง และน้ำท่วมใหญ่ก็ผ่านกันมาได้ ดังนั้นภาครัฐและเอกชนควรร่วมมือกันช่วยแก้ไขร่วมกัน ขณะที่เงินบาทแข็งค่าเชื่อว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลอยู่
"ปีนี้นักท่องเที่ยวจีนหายไป 3 เดือนแรก ค่าเงินบาทแข็ง เหตุระเบิดทำให้ความเชื่อมั่นหาย ที่ผ่านมาสึนามิ เหลือง-แดง น้ำท่วมใหญ่ เจ็บจนชา แต่ไม่ชิน ยังมีการแข่งขันราคา เป็นปีที่ลำบากของธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม ทัวร์ สายการบิน retail " นายธรรศพลฐ์ กล่าว
นายธรรศพลฐ์ กล่าวว่า สายการบินไทยแอร์เอเชียก็จะหันมาปรับใช้กลยุทธ์จัดโปรโมชั่นไปถึงสิ้นปี เพื่อให้มีรายได้เข้ามาต่อเนื่อง แต่บางสายบินหั่นราคาหนัก และขายตั๋วต่ำกว่าทุนทำให้ธุรกิจสายการบินเจ็บตัวกันหมด จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแลด้วย
ทั้งนี้ บริษัทคาดหวังภาครัฐจะมีมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาว มาช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยมีมาตรการทั้งการท่องเที่ยวและการคลัง ได้แก่ มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า การลดภาษีสนามบินของบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) การคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มากขึ้นเพื่อจูงใจการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว
"ปีนี้ถ้ามีฉีดยาแรง และทำได้ภายใน 30-60 วันข้างหน้า ซึ่งกำลังจะเข้าหน้าไฮซีซั่น จะทำให้ธุรกิจเสมอตัว หรืออาจดีขึ้น แต่ถ้าปล่อยไว้ก็เตรียมตัวรับผลกระทบ"นายธรรศพลฐ์ กล่าว
นายโทนี่ เฟอร์นานเดส. ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย กล่าวว่า ประเทศไทยถือว่าอยู่ในภูมิศาสตร์ที่ดีของอาเซียน และจะเป็นประเทศแรกที่จะไปยุโรปตะวันออก โดยสายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ที่มีแผนจะบินเข้าในยุโรปตะวันออกในกลางปีหน้า โดยสัปดาห์หน้าจะรับมอบเครื่องบิน แอร์บัส A330 NEO มี 365 ที่นั่ง ที่รองรับเส้นทางนี้