(เพิ่มเติม) รมว.คลังหารือสภาธุรกิจสหรัฐฯ ชวนขยายการลงทุน ย้ำพื้นฐานศก.ไทยแข็งแกร่ง รองรับความผันผวนศก.โลกได้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 15, 2019 18:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (US-ASEAN Business Council: USABC) จำนวน 107 ราย จาก 46 บริษัทชั้นนำของสหรัฐอเมริกา เข้าพบนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง โดยมีประเด็นหารือเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจไทย นโยบายและมาตรการของกระทรวงการคลังในด้านต่าง ๆ อาทิ การให้บริการด้านการเงิน ภาษีอากร เศรษฐกิจดิจิทัล และการส่งเสริมลู่ทางการค้าการลงทุน เป็นต้น

รมว.คลัง ได้ชี้แจงคณะ USABC ถึงสถานการณ์และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยว่า ในปี 2561 เศรษฐกิจไทยมีอัตราการเจริญเติบโตที่ 4.1% สูงสุดในรอบ 6 ปี อย่างไรก็ตาม ในปี 2562 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากปีก่อนหน้า จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและภาวะตึงเครียดทางการค้า

โดยได้สร้างความเชื่อมั่นต่อคณะ USABC ว่า พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังคงแข็งแกร่ง และสามารถรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ดี ซึ่งขณะนี้กำลังเตรียมมาตรการเศรษฐกิจด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจภายในประเทศให้สามารถเดินหน้าอย่างต่อเนื่องต่อไป

โดยในช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับความเชื่อมั่นจากสถาบันระหว่างประเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อ อาทิ Fitch Ratings และ Moody’s ที่ได้ปรับมุมมองความน่าเชื่อถือของเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น นอกจากนี้ World Economic Forum ได้ปรับเพิ่มอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยให้ดีขึ้นเป็นอันดับที่ 38 จาก 140 ประเทศ และ Institute for Management Development (IMD) ได้ปรับเพิ่มดัชนีขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทยปี 2562 เป็นอันดับที่ 25 จากอันดับที่ 30 ในปีก่อนหน้า เช่นเดียวกับธนาคารโลกได้จัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจของประเทศไทยให้อยู่ในอันดับ 3 เมื่อเทียบกับสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ เป็นต้น

นอกจากนั้น รมว.คลัง ได้ชี้แจงคณะ USABC ถึงความคืบหน้าของกระทรวงการคลัง ในการสนับสนุนการอำนวยความสะดวกทางการค้า ส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ รวมทั้งชักชวนให้คณะ USABC ขยายการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) อีกทั้งให้ความสำคัญต่อการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในด้านกายภาพและด้านดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย

โดยได้เชิญชวนให้บริษัทสมาชิก USABC มาร่วมกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจของภาคเอกชน และช่วยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และสังคมในประเทศไทย ซึ่งจะสามารถเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านและสมาชิกอาเซียนได้

การพบปะกับกลุ่มนักธุรกิจ USABC นั้น เป็นโอกาสอันดีที่ได้หารือร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลทางเศรษฐกิจ และการดำเนินธุรกิจที่เป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย อีกทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพการค้าการลงทุนระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกาต่อไป

ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังคณะสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมว่า คณะนักธุรกิจที่เป็นสมาชิกของสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน ได้แสดงความมั่นใจต่อเสถียรภาพรัฐบาล และนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัท ซึ่งแต่ละบริษัทมีการลงทุนในไทยบ้างแล้ว และกำลังจะลงทุนเพิ่มเติม โดยวันพรุ่งนี้จะลงพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้ความมั่นใจเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ แผนบูรณาการด้านพลังงาน แผนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ ขณะที่สิ่งที่นักธุรกิจขอให้รัฐบาลดำเนินการ คือ แก้ไขกฎระเบียบเพิ่มเติม (Doing business)

สำหรับนักธุรกิจสหรัฐฯ และผู้บริหารของ USABC ประกอบด้วย 47 บริษัทจาก 7 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ (1) พลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน (2) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (3) สุขภาพและชีววิทยาศาสตร์ (4) อาหารและการเกษตร (5) การผลิต และ (6) บริการทางการเงิน (7) การท่องเที่ยว อาทิ บริษัท Amazon , Apple, ConocoPhillips, FedEx, Harley-Davidson, Johnson & Johnson, Marriott International, Mastercard, Netflix, Paypal และ Stripes เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ