นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 30.85 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวาน นี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.85/87 บาท/ดอลลาร์
"ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลหลักจากยอดค้าปลีกที่ดีกว่าคาด แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเกิดใหม่"นักบริหารเงิน
ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.80 - 30.90 บาท/ดอลลาร์ โดยมองว่าบรรดาสินทรัพย์ เสี่ยงยังมีโอกาสฟื้นตัวในกรอบจำกัดจากทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว
THAI BAHT FIX 3M (15 ส.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.28145% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.19604%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.16 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 105.90/93 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1101 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 1.1150/1153 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.8460 บาท/ดอลลาร์
- รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ให้หน่วยงานเศรษฐกิจติดตามสถานการณ์ความผันผวนเศรษฐกิจโลก ตลาดหุ้นไทย และการ
เกิดภาวะพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นสูงกว่าระยะยาว (อินเวิร์ท ยีลด์ เคิร์ฟ) เพื่อนำเข้าหารือในที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจนัดแรก วัน
ที่ 16 ส.ค. 62 โดยยอมรับว่าตลาดหุ้นไทยที่ปรับลดลงมากมีผลกระทบจากเศรษฐกิจภายนอก ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยสิ่ง
ที่รัฐบาลพยายามทำคือการทำให้เศรษฐกิจในประเทศเข้มแข็ง ซึ่งมั่นใจว่าการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนจะรับมือกับภาวะ
เศรษฐกิจโลกผันผวนได้
- "พาณิชย์" ตามติดสหรัฐขึ้นภาษีสินค้าจีนรอบใหม่ ชี้เป็นโอกาสส่งออกสินค้าไทยขายสหรัฐ เอกชนสหรัฐ ตบเท้าพบจุรินทร์
- รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่าเตรียมนำเสนอ 3 มาตรการเสริมการใช้จ่าย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศใน
ช่วงปลายปี วงเงิน 15,000 ล้านบาท เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เงินกระจายสู่ชุมชน หมุนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทุกพื้นที่
โดยความชัดเจนจะเกิดขึ้นในวันที่ 23 ส.ค. เพราะต้องประกาศดำเนินมาตรการเสริมนี้ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี
- นักลงทุนส่งสัญญาณตลาดหุ้นมีแนวโน้มตกต่ำจากความถดถอยของสหรัฐ ซึ่งคาดส่งผลกระทบภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลก ขณะที่
หุ้นไทยเองก็ไม่รอดช่วงไม่กี่เดือนปรับลดลงแล้วกว่า 130 จุด เตือนนักลงทุนบริหารความเสี่ยงให้ดี พร้อมจี้รัฐบาลเร่งสร้างความเชื่อมั่น
- "สมคิด" มอบนโยบายกระทรวงพลังงาน ยอมรับหวั่นเศรษฐกิจโลกวิกฤติสั่ง "ปตท.-กฟผ.-กองทุนน้ำมันฯ" ทำแผนอุ้มผู้มี
รายได้น้อยต่อเนื่อง แบ่งเบาภาระค่าครองชีพ
- กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ระบุว่า จีนหวังว่าจะสามารถพบสหรัฐครึ่งทางในประเด็นการค้า ถือเป็นการ
แสดงท่าทีที่อ่อนข้อลงของจีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลังของจีนแถลงว่า จีนจะใช้มาตรการตอบโต้สหรัฐต่อการเรียกเก็บภาษี
จากจีน
- รัฐมนตรีคลังฮ่องกง เปิดเผยว่า รัฐบาลได้จัดเตรียมงบประมาณ 1.91 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (2.44 พันล้านดอลลาร์
สหรัฐ) เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการประท้วงที่ยืดเยื้อ และการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพุ่งขึ้น 0.7% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3%
โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายเสื้อผ้า และเฟอร์นิเจอร์ ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อ
สร้าง และอาหาร พุ่งขึ้น 1.0% ในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 0.7% ในเดือนมิ.ย.
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 9,000 ราย สู่ระดับ
220,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 214,000 ราย
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ส.ค.) หลัง
จากทางการสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนก.ค. โดยข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อน
ทางเศรษฐกิจของสหรัฐนั้น ยังคงอยู่ในทิศทางที่เป็นบวก
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังคงเป็น
ปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สกัดแรงบวกของสัญญา
ทองคำ
- ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ค. และดัชนี
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนส.ค.
- นักลงทุนจับตาสถานการณ์ที่อังกฤษเตรียมแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หลังจากพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่าย
ค้านของอังกฤษได้ยืนยันที่จะจัดการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลของนายบอริส จอห์นสัน และจะหาทางจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวได้ภายใต้การนำ
ของนายเจเรมี คอร์บิน เพื่อที่จะเลื่อนเวลา Brexit