นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 30.73 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 30.80 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 30.72-30.81 บาท/ดอลลาร์
"ระหว่างวันวิ่งกว้าง นักลงทุนน่าจะมีการปรับพอร์ตป้องกันความเสี่ยงระหว่างรอฟังถ้อยแถลงของประธานเฟดคืนนี้ว่าจะมี การส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อย่างไร ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ทั้งนั้น" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันจันทร์ไว้ระหว่าง 30.65 - 30.80 บาท/ดอลลาร์
"ต้องลุ้นคืนนี้ก่อน โอกาสที่นักลงทุนจะสมหวังและผิดหวังเป็นไปได้หมด"นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 106.64 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 106.54 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1060 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 1.1073 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,646.68 จุด เพิ่มขึ้น 13.12 จุด, +0.80% มูลค่าการซื้อขาย 51,082.72 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,521.76 ลบ.(SET+MAI)
- อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยภายหลังการประชุมประเมินสถานการณ์ส่งออกไตรมาส 3 ปี 62 ร่วม
กับภาคเอกชนว่า กรมฯ ยังคงยืนยันเป้าหมายการเติบโตทั้งปีที่ 3% ไว้เป็นเป้าทำงาน เพราะในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ วันที่
16 ส.ค.62 ได้ประเมินเศรษฐกิจในภาพรวม รวมถึงการส่งออกด้วย และได้เห็นด้วยกับเป้าหมาย 3% ส่วนปี 63 มองโต 3.5%
- อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การใช้สิทธิประโยชน์สำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA)
และภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ในช่วง 6 เดือนของปี 62 มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ รวมอยู่ที่
36,358.24 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการใช้สิทธิประโยชน์ฯ อยู่ที่ 78% หดตัวจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 1.35%
- รมว.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้าการขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เหลือ 7% ออกไปอีกหรือไม่จากที่จะสิ้น
สุดในวันที่ 30 ก.ย.62 ว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลา
สักระยะหนึ่ง
- จีนได้เรียกร้องไปยังสหรัฐให้พบกันครึ่งทาง เพื่อที่จะยุติสงครามการค้าแทนที่จะเดินหน้าการขึ้นภาษีต่อตามที่สหรัฐได้วาง
แผนไว้ ซึ่งจีนมองว่า การดำเนินการดังกล่าวจะจุดชนวนให้เกิดการตอบโต้
- ธนาคารกลางจีนเปิดเผยแผนการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงิน หรือฟินเทค (FinTech) ในช่วงระยะเวลา 3 ปี เพื่อ
เปิดทางให้ฟินเทคเข้ามามีบทบาทในระบบเศรษฐกิจอย่างเต็มตัว และส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูงในภาคการเงิน
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า เฟดได้เพิ่มการถือครองตราสารหนี้รัฐบาลสหรัฐ หลังก่อนหน้านี้เฟดได้ประกาศยุติ
การปรับลดงบดุล ตราสารหนี้รัฐบาลสหรัฐส่วนใหญ่ที่เฟดถือครองนั้นเป็นตราสารหนี้ระยะยาวที่ออกโดยรัฐบาลสหรัฐ เช่น ตั๋วเงินคลังและ
พันธบัตรรัฐบาล ซึ่งมีมูลค่ารวม 1,942,540 ล้านดอลลาร์
- ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ
(เฟด) ที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่งในวันนี้ ต่อจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด
- หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงมีแผนที่จะ
จัดการเจรจาแบบตัวต่อตัวระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนในเดือนก.ย. หลังจากการเจรจาระดับรองผู้นำของประเทศทั้งสองในสัปดาห์นี้
ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างสร้างสรรค์
- รัฐมนตรีฝ่ายกิจการพัฒนาเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐจะจัดการเจรจาเรื่องการค้าระดับรัฐมนตรีอีก 1 วัน
ในวันนี้
- ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาในสัปดาห์หน้า ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค.ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.
ค. ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนก.ค.จากเฟดชิคาโก ราคาบ้านเดือนมิ.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้
บริโภคเดือนส.ค.จาก Conference Board ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2562 (ประมาณการครั้งที่ 2) ยอด
ทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ค. เป็นต้น