CIMBT หั่นคาดการณ์ GDP ไทยปี 62 เหลือโต 2.8% มองสงครามการค้าลากยาวกดดันศก.โลก, คาดกนง.ลดดบ.อีกครั้ง Q4/62

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 30, 2019 11:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย (CIMBT) กล่าวว่า ธนาคารได้ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปี 62 เหลือโต 2.8% จากเดิมที่ 3.3% เนื่องจากความตึงเครียดจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนเริ่มเห็นผลกระทบต่อประเทศไทยแล้ว ซึ่งเป็นการลุกลามมาจากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ ทำให้ภาคการลงทุนเอกชนมีแนวโน้มที่จะติดลบในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่มีแนวโน้มติดลบต่อเนื่อง แต่ไม่รุนแรงเท่าครึ่งปีแรกของปีนี้

"เมื่อการส่งออกมีปัญหาจะเห็นผู้ประกอบการปรับแผน โดยเริ่มจากการลดกำลังการผลิต ซึ่งมีผลต่อการนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบอื่นๆที่ลดลงอย่างมาก ทำให้ตลาดเกิดความเงียบเหงา แต่เมื่อภาคเอกชนชะลอการลงทุนก็จะมีผลมายังภาคการบริโภค การจ้างงานก็จะลดลงและชั่วโมงการทำงานมีแนวโน้มถูกตัดมากขึ้น"นายอมรเทพ กล่าว

อย่างไรก็ตาม มองว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ออกมาล่าสุดจะช่วยประคองเศรษฐกิจไม่ให้ย่ำแย่ไปมากกว่านี้ ผ่านการกระตุ้นการบริโภคระดับล่าง แต่ยังมองว่าสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวคือภาคการลงทุนที่มีความจำเป็นอย่างมาก ซึ่งคาดหวังว่าภาครัฐจะมีมาตรการออกมาในช่วงที่เหลือของปีนี้

ด้านนโยบายการเงินของไทยมองว่ามีโอกาสที่จะเห็นการใช้มาตรการทางการเงินแบบผ่อนคลายเพิ่มเติม ซึ่งมีโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยยโยบายลดลงอีกครั้งไนไตรมาส 4/62 เพื่อประคองเศรษฐกิจ และช่วยเหลือภาคการส่งออก พร้อมลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับภาคเอกชน รวมไปถึงกดให้ค่าเงินบาทอ่อนลงด้วย ซึ่งแนวโน้มค่าเงินบาทในช่วงที่เหลืออาจจะอ่อนค่าลงจากปัจจุบัน หากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่เป็นไปตามที่ตลาดคาด คือ เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯลงถึง 4 ครั้งในปีนี้

แต่หากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯลงเพียง 3 ครั้ง ซึ่งเท่ากับที่ธนาคารคาดการณ์ไว้ จะทำให้ตลาดมีการปรับมุมมองการลงทุน ซึ่งเป็นการกลับเข้าลงทุนในสินทรัพย์สกุลดอลลาร์มากขึ้น ทำให้ค่าเงินบาทและค่าเงินอื่นๆในภูมิภาคกลับมาอ่อนค่าลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งในส่วนของค่าเงินบาทธนาคารคาดว่าช่วงปลายปีนี้จะอยู่ที่ 30.90 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ

นายอมรเทพ กล่าวว่า ธนาคารยังคงมองว่าปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่องยังคงเป็นปัจจัยสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่อาจจะลากยาวไปถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 63 และหากนายโดนัล ทรัมป์ ยังคงเป็นผู้นำสหรัฐฯอยู่ ความตึงเครียดของสหรัฐฯและจีนยังคงมีต่อเนี่อง ซึ่งจะส่งผลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยต่อเนื่องในปี 63


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ