นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 30.59 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่ เปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 30.60/61 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 30.59-30.61 บาท/ดอลลาร์
"วันนี้วิ่งแคบมาก แต่ก็ตามภูมิภาค เข้าใจว่าน่าจะมีแรงซื้อแรงขายดอลลาร์สลับกันไป ขณะที่ตลาดยังรอความคืบหน้าสงคราม การค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน มุมเจ้าหน้าเฟดที่มีต่อทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ รวมทั้งประเด็น Brexit" นักบริหารเงิน กล่าว
สำหรับวันพรุ่งนี้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทไว้ระหว่าง 30.55-30.65 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม นอกจากประเด็นที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของ สหรัฐฯ คืนวันศุกร์นี้
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.22 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 106.03/06 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1021 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 1.0973 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,658.64 จุด เพิ่มขึ้น 16.39 จุด, +1.00% มูลค่าการซื้อขาย 64,849.57 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 873.72 ลบ.(SET+MAI)
- รมว.คลัง คลัง เปิดเผยว่า จากที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ แสดง
ความเป็นห่วงต่อสถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทย ที่ล่าสุดระดับหนี้ครัวเรือนไทยสูงสุดในรอบ 9 ไตรมาส และขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 11 ของโลกนั้น
เรื่องนี้กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเข้าไปติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด
- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง
ประเมินว่า สถานการณ์หนี้ครัวเรือนของไทยยังไม่เป็นประเด็นที่น่ากังวล แม้ระดับหนี้ครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 1/62 จะอยู่ในระดับสูงที่
78.7% ต่อ GDP หรือ 12.97 ล้านล้านบาท แต่ถือว่าลดลงเมื่อเทียบกับระดับหนี้ครัวเรือนที่เคยสูงสุดที่ 81.2% ต่อ GDP เมื่อปี 2558
- รมว.คลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ เพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกผันผวน แต่
ขอยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ได้ถดถอย เพียงแค่เติบโตช้าลงเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องการความช่วยเหลือจากรัฐวิสาหกิจในการช่วยปรับแผน
ลงทุนให้เร็วขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ระบบว่าในภาวะเช่นนี้ การลงทุนของรัฐบาลยังเป็นไปตามแผน
- ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ระบุว่า จะติดตามและทบทวนประมาณการเครื่องชี้เศรษฐกิจ
ต่างๆ อีกครั้งในเดือนหน้า เนื่องจากมีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่ยังขาดปัจจัยหนุน และมีโอกาสมากขึ้นที่ทั้งปี 2562 นี้
เศรษฐกิจไทยอาจจะขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้
- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เปิดเผยว่า ความขัดแย้งการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนนั้นส่งผล
เสียต่อเศรษฐกิจของทั้งสหรัฐและจีน และยังส่งผลเสียต่อทั้งโลกด้วย เรื่องดังกล่าวทำให้เกิดความไม่แน่นอน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการลงทุน
รวมถึงความขัดแย้งทางการค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจะฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่และตลาดประเทศพัฒนาแล้วต่อไป
- ประธานฝ่ายการกำกับดูแลของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้เตือนให้ธนาคารพาณิชย์ในกลุ่มยูโรโซนเดินหน้าลดปัญหาหนี้
เสีย และเร่งหาแผนรับมือในกรณีที่สหราชอาณาจักรอาจถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปแบบ Hard Brexit ในปลายเดือนต.ค.นี้ โดยทาง
หน่วยงานจะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด