นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ 30.62 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่เปิด ตลาดที่ระดับ 30.64/69 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 30.62-30.67 บาท/ดอลลาร์
"ระหว่างวันมีอ่อนค่าเล็กน้อยขึ้นไป แต่หลักๆ ตลาดยังคาดปัจจัยชี้นำ High light น่าจะอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางยุ โรป (ECB) ซึ่งตลาดคาดหวังว่าน่าจะมีมติสำคัญๆ เช่น ลดดอกเบี้ย และน่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ซึ่งน่าจะมีผลต่อ อัตราแลกเปลี่ยนพอสมควร"นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 30.60-30.70 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 107.32 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 107.10/60 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1042 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1020/1060 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,665.93 จุด ลดลง 5.29 จุด, -0.32% มูลค่าการซื้อขาย 58,277.80 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,617.63 ลบ.(SET+MAI)
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้ขยายเวลาการใช้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ 7% ออกไปอีก 1 ปี จากที่
จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.62 ตามการเสนอของกระทรวงการคลัง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจขณะนี้ยังไม่เหมาะสมที่จะกลับไปใช้อัตราเดิม
ที่ 10% โดยจะประเมินภาวะเศรษฐกิจในลักษณะปีต่อปีไปก่อน เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ทิศทางเศรษฐกิจได้อย่างถูกต้อง
- ที่ประชุม ครม.วันนี้ยังอนุมัติมาตรการกระตุ้นการลงทุนตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เสนอ
และผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแนวทางการพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทย
(Thailand National Digital Trade Platform) กำชับให้ทุกภาคส่วนช่วยกันขับเคลื่อนเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ
- ที่ประชุม ครม.รับทราบการแก้เงื่อนไขมาตรการ "ชิม ช็อป ใช้" ซึ่งเป็น 1 ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจบางส่วนเพื่อให้
ร้านค้าเข้าร่วมในมาตรการได้มากขึ้นตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
- โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เป็นข่าวดีที่ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่มี
นักท่องเที่ยวมามากที่สุด ถือเป็น Top Destination ซึ่งคาดว่าปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวน่าจะได้ตามเป้า คือ 40 ล้านคน
- นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี ,อดีต รมว.คลัง และอดีตประธานธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
เปิดเผยว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยในช่วงนี้ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้รับผลกระทบปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศ แต่สิ่งที่อยากให้รัฐบาลตระหนัก
คือการดูแลเศรษฐกิจภายในประเทศให้มีประสิทธิภาพ เพื่อประคับประคองไม่ให้ได้รับผลกระทบมากจนเกินไป
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น
2.8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.7%
- นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เตรียมปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งคาดว่านายทาโร่ อาโสะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นควบตำแหน่ง
รองนายก น่าจะยังคงดำรงตำแหน่งเดิมต่อไปในครม.ชุดใหม่นี้
- รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เปิดเผยว่า การทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับญี่ปุ่นน่าจะเรียบร้อยในการประชุมสมัชชา
ใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ที่ซึ่งผู้นำจากทั้งสองประเทศมีแนวโน้มที่จะพบปะกันนอกรอบการประชุมดังกล่าว