BAY คาดกรอบเงินบาท 30.35-30.75 หลังแข็งค่าสุดในรอบกว่า 6 ปี จับตาประชุมเฟด

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 16, 2019 13:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.35-30.75 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 30.43 บาท/ดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดตั้งแต่เดือน มิ.ย.56 ขณะที่ตลาดตอบรับสัญญาณที่ว่าสงครามการค้าอาจคลี่คลายลงซึ่งหนุนสกุลเงินในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1.7 พันล้านบาท แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 9.6 พันล้านบาท ส่วนเงินดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และจีนเพื่อยุติข้อพิพาททางการค้า

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ มองว่า ตลาดจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) วันที่ 17-18 ก.ย.62 ซึ่งคาดว่าจะมีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ช่วง 1.75-2.00% ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้สร้างความไม่พอใจให้แก่ประธานาธิบดีทรัมป์ และอาจเพิ่มแรงกดดันต่อเฟดได้บ้าง หลังจากอีซีบีปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากลงมาสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ติดลบ 0.5% จากเดิมติดลบ 0.4% และจะเริ่มโครงการเข้าซื้อพันธบัตรขนาด 2 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นไปโดยไม่กำหนดวันสิ้นสุด

อย่างไรก็ดี ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ยังคงบ่งชี้ถึงทิศทางที่สดใสกว่ากลุ่มเศรษฐกิจหลัก ดังนั้นหากเฟดประเมินเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในเชิงบวกมากกว่าที่นักลงทุนคาดไว้ เงินดอลลาร์มีโอกาสพลิกกลับมาแข็งค่าได้เช่นกัน นอกจากนี้ตลาดจะจับตาผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ในวันที่ 19 ก.ย.62

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ มองว่า เปิดตลาดสัปดาห์นี้ สกุลเงินของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบสุทธิ ยังได้รับแรงกดดันจากเหตุโจมตีโรงงานน้ำมันของซาอุดิอาระเบียซึ่งลดอุปทานพลังงานโลกและส่งผลให้ราคาสัญญาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในตลาดล่วงหน้าพุ่งขึ้นกว่า 15% อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าผลกระทบต่อตลาดอัตราแลกเปลี่ยนจากประเด็นดังกล่าวจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ขณะที่เราให้น้ำหนักปัจจัยชี้นำค่าเงินบาทไปที่สัญญาณดอกเบี้ยในระยะถัดไปจากเฟด รวมถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับทิศทางการค้าโลกเป็นสำคัญ อนึ่ง ในช่วงนี้ตลาดจะเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นหลังเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 6 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ