สหรัฐเผย การเรียกคืนเนื้อวัวกระทบการเจรจาส่งออกไปยังญี่ปุ่น-เกาหลีใต้

          เอ็ด ชาฟเฟอร์ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรสหรัฐ เปิดเผยว่า เขากำลังรอผลการตรวจสอบการเรียกคืนเนื้อวัวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆ อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้การเจรจาส่งออกเนื้อวัวไปยังญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต้องล่าช้าออกไปอีก
          นายชาฟเฟอร์ เพิ่งเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรเพียง 1 วันก่อนที่องค์กรเพื่อมนุษยธรรมจะเปิดเผยวิดีโอภาพคนงานบริษัท เวสท์แลนด์/ฮอลล์มาร์ก กำลังทำทารุณกรรมวัวที่ป่วยและบาดเจ็บ ด้วยการเตะ เอาไฟฟ้าช็อต เอาน้ำฉีด และกระแทกด้วยรถยกของ เพื่อให้มันทรงตัวยืนอยู่ได้ เนื่องจากตามกฎหมายแล้ว วัวที่ป่วยจนไม่สามารถยืนได้จะไม่สามารถนำมาทำเป็นอาหารได้ เพราะมีความเสี่ยงสูงที่วัวเหล่านั้นจะติดโรควัวบ้าหรือโรคอื่นๆ
          ทางกระทรวงเกษตรสหรัฐจึงสั่งให้มีการเรียกคืนเนื้อวัวครั้งใหญ่ที่สุดกว่า 143 ล้านปอนด์ โดยกว่า 1 ใน 3 ของทั้งหมดเป็นเนื้อวัวที่ใช้ในโครงการอาหารกลางวันของหลายโรงเรียน
          แม้จะไม่มีผู้ป่วยจากการรับประทานเนื้อวัวดังกล่าว แต่ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเนื้อวัวเกรงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อการค้าระหว่างประเทศ
          ทั้งนี้ เกาหลีใต้สั่งห้ามนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐมาตั้งแต่ปี 2546 หลังโรควัวบ้าระบาด ในขณะที่ญี่ปุ่นได้ออกข้อกำหนดการนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐในปีเดียวกัน และปัจจุบันญี่ปุ่นอนุญาตให้มีการนำเข้าเนื้อวัวที่มีอายุ 20 เดือนหรือต่ำกว่านั้นเท่านั้น 
         เจเรมี รัสเซล โฆษกสมาคมผู้ค้าโคเนื้อแห่งชาติกล่าวว่า "กว่า 4 ปีแล้วที่ตลาดเกาหลีใต้และญี่ปุ่นไม่ต้อนรับเนื้อวัวจากสหรัฐ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้ไม่อาจรู้ได้ว่าตลาดเหล่านั้นจะเปิดรับเนื้อวัวจากเราเมื่อใด"       
          ด้านรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรกล่าวว่า เขายังไม่ต้องการเปลี่ยนข้อกำหนดการตรวจสอบคุณภาพเนื้อวัวจนกว่าจะทราบว่าใครคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำนักข่าวเอพีรายงาน