คลัง เผยยอดลงทะเบียน"ชิมช้อปใช้"ต่อวันเต็มเร็วขึ้นต่อเนื่อง/KTB เผยยอดใช้จ่ายวันแรก 1 ลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 27, 2019 17:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า ประชาชนให้ความสนใจมาตรการชิมช้อปใช้เป็นอย่างมาก โดยพบว่า ยอดการลงทะเบียนครบ 1 ล้านคนต่อวันเต็มเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนจะให้กำหนดเวลาของการลงทะเบียนใหม่หรือไม่นั้น ได้มอบหมายให้ธนาคากรุงไทย (KTB) ไปพิจารณาว่าจะทำได้หรือไม่

"อย่างผู้สูงอายุที่ต้องเดินทางไปยังสาขา แต่ว่าโควตาเต็มก่อน ก็จะให้กรุงไทยไปพิจารณาว่าจะอำนวยความสะดวกได้อย่างไรบ้าง ส่วนการใช้จ่ายวันแรกมีความคึกคักหรือไม่นั้น ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดู" นายอุตตม กล่าว

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การเปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์มาตรการ "ชิมช้อปใช้" ในช่วง 5 วันแรก มีผู้สนใจเข้าร่วมเต็มตามโควตา 1 ล้านราย ในแต่ละวันแล้ว

สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการเปิดรับลงทะเบียนและมีโควตาประจำวัน 1 ล้านรายนั้น มีผู้ผ่านเกณฑ์ 775,232 ราย โดยผู้ได้รับสิทธิ์จะทยอยได้รับ SMS ยืนยันภายในวันนี้ และสามารถเดินทางท่องเที่ยวพร้อมเริ่มจับจ่ายใช้สอยได้ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายนถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2562 โดยเมื่อเริ่มใช้สิทธิ์ครั้งแรกแล้ว สามารถใช้สิทธิ์ต่อเนื่องได้จนสิ้นสุดโครงการในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562

ทั้งนี้ หากพิจารณาในรายละเอียดพบว่าผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์จากการลงทะเบียนในวันที่ 2 โดยส่วนใหญ่จำนวนกว่า 87,000 ราย มีสาเหตุจากการยืนยันตัวตนหรือการกรอก OTP เกินกว่าระยะเวลาที่กำหนด 3 นาที อีกส่วนหนึ่งจำนวนกว่า 67,000 ราย มีข้อมูลไม่ตรงกับฐานข้อมูลของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการกรอกข้อมูลผิดพลาด เช่น การใส่คำนำหน้าชื่อ ไม่ว่าจะเป็น นาย นาง หรือนางสาวลงในช่องที่จะต้องกรอกชื่อ ซึ่งในความจริงแล้วไม่ต้องกรอกคำนำหน้าชื่อ หรือความสับสนระหว่างหมายเลขศูนย์กับตัวอักษร O (โอ) ในส่วนของรหัสที่อยู่ด้านหลังบัตรประชาชน เป็นต้น และอีกจำนวนกว่า 70,000 ราย ไม่ผ่านเกณฑ์เนื่องจากเลือกจังหวัดที่ต้องการไปใช้สิทธิ์ตรงกับจังหวัดที่เป็นทะเบียนบ้านของตน

"ขอให้ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการชิมช็อปใช้ กรอกข้อมูลในระหว่างลงทะเบียนด้วยความรอบคอบและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนยืนยัน อย่างไรก็ดี สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ สามารถลงทะเบียนใหม่ได้จนกว่าจะมีผู้รับสิทธิ์ครบ 10 ล้านคน"โฆษกกระทรวงการคลัง เน้นย้ำ

สำหรับในส่วนของการขยายระยะเวลาการรับลงทะเบียนร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการชิมช้อปใช้ ถึง 15 ต.ค. 2562 ขณะนี้มีร้านค้าที่มาลงทะเบียนเพิ่มเติมแล้ว จำนวน 5 พันร้านค้า โดยกระทรวงการคลังตั้งเป้าหมายว่าจะมีร้านค้าเข้ามาสมัครเพิ่มเติมประมาณ 2 หมื่นร้านค้า โดยเมื่อรวมกับที่มาลงทะเบียนก่อนหน้านี้ 7 หมื่นร้าน และร้านค้าธงฟ้า 8 หมื่นล้าน จะทำให้มีร้านค้าที่อยู่ในมาตรการชิมช้อปใช้ทั้งสิ้น 1.7 แสนร้านค้า ซึ่งเชื่อว่าจะเพียงพอต่อการใช้งานของประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ 10 ล้านคน

ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ KTB กล่าวถึงการเปิดลงทะเบียนในวันที่ 5 (27 ก.ย.) ว่า ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก โดยพบว่ายอดการลงทะเบียนครบ 1 ล้านคนภายในเวลา 02.56 น. จากข้อมูลพบว่าในช่วงก่อนเวลา 00.00 น. ที่จะเปิดให้ลงทะเบียน มีประชาชนทยอยเข้ามารอลงทะเบียนกว่า 7 แสนราย ทำให้ระบบอาจมีปัญหาล่าช้าไปบ้าง โดยธนาคารกรุงไทยได้พยายามดูแลระบบเพื่อรองรับความต้องการของประชาชนที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า กระบวนการขั้นตอนตั้งแต่การลงทะเบียน การตรวจสอบสิทธิ์ และการยืนยันตัวตนเพื่อเข้าร่วมมาตรการชิมช้อปใช้ ค่อนข้างเข้มงวด เนื่องจากต้องการให้เกิดความปลอดภัย รัดกุมและถูกต้องที่สุด เพราะเป็นการใช้เงินหลวง ขณะที่ ขณะนี้กรมบัญชีกลางดำเนินการเปิดวงเงินให้กับประชาชนที่มาลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมมาตรการชิมช้อปใช้วันแรก (23 ก.ย.) ที่ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์และยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้วกว่า 8.07 แสนราย คิดเป็นวงเงิน 807 ล้านบาท และขณะนี้ประชาชนเริ่มทยอยใช้จ่ายเงินกับร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการแล้ว โดยยอดการใช้จ่ายวันแรก (27 ก.ย.) อยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาท

สำหรับข้อเสนอแนะเรื่องการปรับเปลี่ยนเวลาการลงทะเบียนมาตรากรชิมช้อปใช้ เพื่อให้ครอบคลุมประชาชนในทุกกลุ่มนั้น ไมสามารถดำเนินการได้ เพราะกรอบระยะเวลาเริ่มลงทะเบียน 00.00 น. เป็นช่วงเวลาที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้ ดังนั้นประชาชนที่สนใจต้องหาเวลามาลงทะเบียนเพื่อจองสิทธิ

นายผยง กล่าวอีกว่า ในส่วนร้านค้าที่ทำผิดเงื่อนไข เช่น เปิดให้มีการนำสิทธิมาแลกเป็นเงินสด ในส่วนของธนาคารมีระบบ AI ในการตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา โดยหากพบว่ามีการทำผิดเงื่อนไขจะมีการปิดสิทธิในแอพพลิเคชันถุงเงินทันที ส่วนกระบวนการเอาผิดทางกฎหมาย กระทรวงการคลัง สศค. และกรมบัญชีกลางจะดำเนินการอย่างถึงที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ