ภาวะตลาดเงินบาท: เย็นนี้อยู่ที่ 30.58 แข็งค่าต่อเนื่องหลังมีแรงขายดอลล์-เม็ดเงินไหลเข้าตลาดพันธบัตร

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 30, 2019 16:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเย็นนี้อยู่ที่ 30.58 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิดตลาดเช้าอยู่ ที่ระดับ 30.61 บาท/ดอลลาร์ ตามแรงเทขายของผู้ส่งออก และทิศทางเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาในตลาดพันธบัตร ระหว่างวันเคลื่อน ไหวในกรอบ 30.55-30.62 บาท/ดอลลาร์

"บาทแข็งค่าต่อเนื่องจากแรงเทขายดอลลาร์ของผู้ส่งออก ประกอบกับมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาในตลาดพันธบัตร 2,800 ล้านบาท" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 30.50-30.65 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 30.5641 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 107.86 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 107.95 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.0938 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0931 ดอลลาร์/ยูโร
  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รอบที่ผ่านมาได้ปรับ
ลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงเหลือขยายตัว 2.8% สาเหตุสำคัญเป็นผลมาจากสงครามการค้าระหว่างประเทศที่มีผลกระทบรุนแรง
ต่อปริมาณการค้าโลก ขณะที่ไทยเป็นระบบเศรษฐกิจแบบเปิดต้องพึ่งพิงการส่งออกค่อนข้างมาก จึงทำให้การส่งออกของไทยได้รับผลกระทบ
ค่อนข้างมาก

อย่างไรก็ดี การปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยลงเหลือเติบโตเพียง 2.8% แม้จะชะลอลงจากปีก่อน และเป็นการเติบโตที่ ต่ำกว่าศักยภาพ แต่ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจไทยกำลังจะเข้าสู่ภาวะวิกฤติแต่อย่างใด เนื่องจากเศรษฐกิจมีวัฎจักรขึ้นลงและขึ้นอยู่กับ หลากหลายปัจจัย ซึ่งปัจจัยจากต่างประเทศถือว่าเป็นส่วนสำคัญ

  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน ส.ค.62 เศรษฐกิจขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อน
โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวชะลอลงตามการใช้จ่ายในเกือบทุกหมวดสินค้า การส่งออกสินค้ากลับมาหดตัวสอดคล้องกับการ
ผลิตภาคอุตสาหกรรม กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนหดตัว นอกจากนี้การใช้จ่ายภาครัฐกลับมาหดตัวตามราย
จ่ายประจำ ขณะที่รายจ่ายลงทุนยังขยายตัวได้ สำหรับภาคการท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานที่ต่ำจากเหตุการณ์เรือล่ม
ในจังหวัดภูเก็ต
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/62 จะขยายตัวได้สูงกว่าไตรมาส 2/62 ที่ขยาย
ตัว 2.3% ซึ่งมองว่าเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำสุดของปีนี้ โดย ธปท.อยู่ระหว่างรอลุ้นมาตรการจากผลของมาตรการ"ชิมช็อปใช้"ว่าจะส่ง
ผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจอย่างไร
  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในช่วง 8 วันแรกมีผู้ลงทะเบียนรับ
สิทธิมาตรการ "ชิมช้อปใช้" เต็มตามโควตา 1 ล้านรายทุกวัน โดยระบบจะใช้เวลาตรวจสอบ 3 วันทำการ และเมื่อได้รับ SMS แจ้งสิทธิ์
และยืนยันตัวตนในแอพพลิเคชัน "เป๋าตัง" แล้ว จะสามารถใช้สิทธิ์ได้ในวันถัดไป
  • สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ได้ปรับลดเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 62 มาอยู่ที่ 39.73
ล้านคน จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 40.64 ล้านคน แต่ยังเพิ่มขึ้น 3.21% เมื่อเทียบปีก่อนที่อยู่ที่ 38.18 ล้านคน และปรับลดคาดการณ์รายได้
จากนักท่องเที่ยวต่างชาติลงมาอยู่ที่ 1.95 ล้านล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 2.20 ล้านล้านบาท แต่ยัง
เพิ่มขึ้น 4.06% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 1.87 ล้านล้านบาท
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานสรุปความคิดเห็นของคณะกรรมการ BOJ ในวันนี้ว่า ในการประชุมครั้งล่าสุด
เมื่อช่วงกลางเดือนก.ย. คณะกรรมการ BOJ ได้หารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม โดยเสนอให้ปรับ
ลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่า มีโอกาสมากขึ้นที่ BOJ จะใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม
  • ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยว่า เกาหลีใต้จะไม่ประสบกับปัญหาร้ายแรงที่เกิดจากอัตราเงินเฟ้อต่ำ พร้อมยืน
ยันว่าอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเป็นประวัติการณ์จะสิ้นสุดลงในเร็วๆนี้
  • รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์จีนยืนยันว่า รัฐบาลจีนจะส่งนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำในการเจรจาการค้า
ระดับสูงเพื่อแก้ปัญหาสงครามการค้ากับสหรัฐในเดือนต.ค.นี้
  • สื่อจีนกล่าวหาสหรัฐว่าพยายามทำลายความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ หลังมีข่าวว่าสหรัฐเตรียมควบคุมการลงทุนของ
สหรัฐในบริษัทจีน
  • หน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินของจีนเปิดเผยว่า จีนจะดำเนินนโยบายเปิดกว้างในตลาดการเงิน และสนับสนุนการลง

ทุนจากต่างประเทศต่อไป หลังจากที่มีข่าวออกมาว่าทำเนียบขาวกำลังพิจารณาที่จะจำกัดการลงทุนของสหรัฐในจีน และปลดบริษัทจีนออก

จากการจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ