น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก กล่าวว่า สรท.ปรับลดคาดการณ์การส่งออกในปี 62 หดตัว -1.5% บนสมมติฐานค่าเงินบาท 33 (บวก/ลบ 0.5) บาท/ดอลลาร์ จากก่อนหน้าได้ปรับลดคาดการณ์ส่งออกปีนี้มาที่ -1% จากเดิมที่เคยคาดโต 1% เมื่อต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนปี 63 คาดว่าการส่งออกจะขยายตัวที่ระดับ 0-1% บนสมมติฐานค่าเงินบาท 30.50 บาท/ดอลลาร์
สำหรับความเสี่ยงที่อาจเป็นอุปสรรคสำคัญประกอบด้วย 1) อัตราแลกเปลี่ยนที่มีแนวโน้มแข็งขึ้นอย่างต่อเนื่องจากท่าทีการดำเนินนโยบายที่ผ่อนคลายของประเทศต่างๆ เช่น สหภาพยุโรป ที่ดำเนินมาตรการซื้อพันธบัตรมูลค่า 200,000 ล้านยูโรต่อเดือน และ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ของ FED จาก 2.00-2.25% สู่ระดับ 1.75-2.00%
ขณะที่ สินค้าเกษตรได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า ส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันด้านราคาลดลงโดยเปรียบเทียบกับคู่แข่งและปริมาณสต๊อกสินค้าที่มีอยู่มากในตลาดโลก ทำให้ไทยเสียเปรียบในการแข่งขันปริมาณการส่งออกของไทยจึงชะลอตัวลง
2) การโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่ง ของบริษัทพลังงานแห่งชาติประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งกระทบต่อปริมาณอุปทานของน้ำมันดิบทั่วโลกกระทบต่อราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 8% ในช่วงวันที่ 14–16 กันยายนที่ผ่านมา ส่งผลต่อความผันผวนและไม่แน่นอน 3) เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวทั่วโลกจากความไม่แน่นอนของสงครามการค้า และสถานการณ์ Brexit ที่ยังคลุมเครือต่อทิศทางของอังกฤษ ส่งผลต่อคำสั่งซื้อที่ลดลงและปริมาณการส่งออกที่ลดลง และ 4) สถานการณ์ภัยพิบัติในประเทศ ได้แก่ น้ำท่วมที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งสร้างความเสียหายรุนแรงแก่ผลผลิตทางการเกษตรในระยะสั้นและระยะยาวในภาคการผลิตเพื่อส่งออกของไทย
ทั้งนี้ สรท.มีข้อเสนอแนะที่สำคัญ ได้แก่ 1.สนับสนุนให้มีการต่อยอดการเจรจาธุรกิจจากการเปิดตลาดศักยภาพระดับรอง (อินเดีย) 2.เร่งเจรจา FTA เพิ่มมากขึ้น ซึ่ง FTA ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มประเทศคู่ค้าหลักและคู่ค้ารองกับไทยเพิ่มมากขึ้น เช่น ไทย-อียู ไทย-สหราชอาณาจักร RCEP และ ไทย-อินเดีย เป็นต้นและ 3.สนับสนุนลดต้นทุนโลจิสติกส์ในประเทศ เพื่อลดภาระต้นทุนของผู้ประกอบการส่งออกของไทย จากสถานการณ์ของความผันผวนของเศรษฐกิจโลก สงครามทางการค้า และค่าเงินบาทที่ปัจจุบันไทยยังคงแข็งค่ากว่าคู่ค้าและคู่แข่ง