พาณิชย์ เผยเจรจา RCEP เดือนก.ย. ปิดดีลได้ 13 บท ส่วนที่เหลืออีก 7 บทคาดได้ข้อสรุปภายในปีนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 1, 2019 18:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับข่าวดีของการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) รอบที่ 28 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 27 กันยายน 2562 ณ เมืองดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งนายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ที่ปรึกษาการพาณิชย์ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการเจรจา RCEP ว่า มีความคืบหน้าเป็นที่พอใจ ถือเป็นสัญญาณที่ดีมากหลังจากที่มีการเจรจามายาวนานกว่า 7 ปี โดยผู้แทนจากสมาชิก RCEP ทั้ง 16 ประเทศ ได้แสดงความยืดหยุ่นมากขึ้นในหลายประเด็น และร่วมกันผลักดันการเจรจาอย่างเต็มที่ ทำให้สามารถสรุปได้แล้ว 13 บท จากทั้งหมด 20 บท

ประกอบด้วย บทบัญญัติพื้นฐานและคำนิยามทั่วไป บทบัญญัติเกี่ยวกับสถาบัน บทพิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า บทมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช บทมาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิค และกระบวนการตรวจสอบและรับรอง บทความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ บทวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บทการจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ บทการค้าสินค้า บททรัพย์สินทางปัญญา บทบัญญัติทั่วไปและข้อยกเว้น บทการระงับข้อพิพาท และบทบัญญัติสุดท้าย รวมถึงภาคผนวกภายใต้บทการค้าบริการ คือ ภาคผนวกโทรคมนาคม ภาคผนวกการเงิน ภาคผนวกวิชาชีพ

สำหรับอีก 7 บทที่เหลือ ได้แก่ บทการเยียวยาทางการค้า บทการแข่งขัน บทการค้าบริการ บทกฎถิ่นกำเนิดสินค้า บทการเคลื่อนย้ายบุคคลธรรมดา บทการลงทุน และบทพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ยังติดเพียงไม่กี่ประเด็นเท่านั้น และน่าจะสามารถได้ข้อสรุปในปีนี้ โดยไทยจะเปิดบ้านเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรี RCEP สมัยพิเศษ ครั้งที่ 9 ในวันที่ 12 ตุลาคม 2562 เพื่อเสนอรัฐมนตรีให้นโยบายในเรื่องที่ยังค้างอยู่ และดำเนินการตามความตั้งใจของผู้นำสมาชิก RCEP ทั้ง 16 ประเทศ ที่จะประกาศความสำเร็จการเจรจา RCEP ในปีนี้

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ที่ปรึกษาการพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโลกทางการค้าที่มีความตึงเครียดอยู่ในปัจจุบัน และหลายประเทศยังคงใช้มาตรการกีดกันทางการค้าอย่างต่อเนื่อง RCEP จะเป็นเครื่องมือหนึ่งในการบรรเทาและลดการกีดกันทางการค้า รวมถึงสร้างความเชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิต ซึ่งจะนำไปสู่การขยายตัวทางการค้าและการลงทุนภายในภูมิภาค โดย RCEP ถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ ครอบคลุมประชากรรวมกันกว่า 3,500 ล้านคน หรือประชากรกว่าครึ่งโลก มีมูลค่า GDP กว่า 27 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 32 ของมูลค่า GDP โลก

โดยในปี 2561 ไทยกับประเทศสมาชิก RCEP มีมูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ประมาณ 2.9 แสนล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 59.8% ของการค้ารวมทั้งหมดของไทย นอกจากนี้ ไทยมีมูลค่าการส่งออกไปยังประเทศสมาชิกอาร์เซ็ป กว่า 1.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 58.8% ของการส่งออกของไทยไปโลก และไทยนำเข้าสินค้าจากประเทศสมาชิกอาร์เซ็ปกว่า 1.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 60.7% ของการนำเข้าไทยจากโลก

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยสามารถสรรหาแหล่งวัตถุดิบที่มีความหลากหลาย ทั้งเชิงคุณภาพและราคามากขึ้น จากเดิมที่สรรหาวัตถุดิบเพียง 10 ประเทศในอาเซียน ขยายเป็น 16 ประเทศ ทำให้ไทยเข้าไปอยู่ในเครือข่ายภาคการผลิต และการกระจายสินค้าของภูมิภาค รวมถึงลดความซ้ำซ้อนกฎถิ่นกำเนิดสินค้า ช่วยให้ผู้ประกอบการปรับแผนการผลิต เลือกสรรหาแหล่งวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถวางยุทธศาสตร์การลงทุนในประเทศที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อภาคการผลิตได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ