น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้แจ้งต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอรัฐมนตรีและสื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ข้อมูลกรณีที่ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ได้เปิดตัวรายงาน Trade 20 ซึ่งพบว่าประเทศไทยติดอันดับที่ 8 ใน 20 ประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตด้านการค้ามากที่สุด โดยมีปัจจัยหนุนจากความพร้อมในด้านการค้า และการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในด้านอีคอมเมิร์ซ
ทั้งนี้ สำหรับรายงาน Trade 20 เป็นการสำรวจ 66 ประเทศทั่วโลก ซึ่งมุ่งวิเคราะห์ศักยภาพการเติบโตด้านการค้าของแต่ละตลาด โดยมีตัวชี้วัด 12 ด้าน ภายใต้การประเมินผล 3 หมวด คือ 1.พลวัตทางเศรษฐกิจ 2.ความพร้อมด้านการค้า และ 3.ความหลากหลายของการส่งออก
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับพลวัตทางเศรษฐกิจจะพิจารณาจากศักยภาพการเติบโตทางการค้าในปัจจุบัน โดยวัดจากความพร้อมด้านการค้า ซึ่งครอบคลุมถึงการที่ตลาดมีพื้นฐานรองรับการเติบโตทางการค้าในอนาคต โดยวัดจากความหลากหลายของการส่งออก การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น
ส่วนตัวชี้วัดในด้านการเติบโตที่นำมาใช้ประเมินผลประเทศไทยมาจากการเติบโตของปริมาณการส่งออก, การเติบโตทางเศรษฐกิจ, คุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานด้านการค้าและการขนส่ง, คุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล, สัดส่วนของประชากรที่สามารเข้าถึงอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ และสัดส่วนการเข้าถึงการใช้อินเตอร์เน็ตต่อประชากรหนึ่งล้านคน เป็นต้น
ขณะที่ด้านอีคอมเมิร์ซจะพิจารณาจากสัดส่วนของประชากรที่ชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลในปีที่ผ่านมา, พัฒนาการด้านการไปรษณีย์, สัดส่วนประชากรที่ใช้อินเตอรเน็ต และคะแนนความสะดวกในการทำธุรกิจ เป็นต้น
สำหรับผลการสำรวจ Trade 20 เป็นดังนี้ อันดับ 1 โกตดิวัวร์, อันดับ 2 อินเดีย, อันดับ 3 เคนย่า, อันดับ 4 จีน, อันดับ 5 ไอร์แลนด์, อันดับ 6 เวียดนาม, อันดับ 7 อินโดนีเซีย, อันดับ 8 ไทย, อันดับ 9 โอมาน, อันดับ 10 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
อันดับ 11 ฮ่องกง, อันดับ 12 รัสเซีย, อันดับ 13 กาน่า, อันดับ 14 ศรีลังกา, อันดับ 15 บาห์เรน, อันดับ 16 สิงคโปร์, อันดับ 17 สวิสเซอร์แลนด์, อันดับ 18 ชิลี, อันดับ 19 ตุรกี และอันดับ 20 ฟิลิปปินส์