ภาวะตลาดเงินบาท: เย็นนี้อยู่ที่ 30.22 แกว่งแคบ ตลาดรอติดตามผลประชุมเฟดคืนนี้ส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 30, 2019 16:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 30.22 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่เปิดตลาดที่ ระดับ 30.23 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันวิ่งแคบระหว่าง 30.22-30.25 บาท/ดอลลาร์

"ต้องรอดูผลประชุมเฟดคืนนี้ซึ่งคงจะลดดอกเบี้ย 0.25% แต่ต้องรอติดตามรายละเอียดของการประชุม รวมทั้งการส่งสัญญาณ เกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า ถ้าออกมาในลักษณะแบ่งรับแบ่งสู้ ก็มีโอกาสที่เงินบาทจะกลับมาแข็งค่าอีก"นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน กล่าวว่า เบื้องต้นยังประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทไว้ระหว่าง 30.15-30.25 บาท/ดอลลาร์

"ถ้าลงไปแตะ 30.15 ก็เป็นระดับที่ทำสถิติใหม่ในรอบกว่า 6 ปีนับจาก 31 พ.ค.2556"นักบริหารเงิน กล่าว

THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 30.2343 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 108.83 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 108.82 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1119 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 1.1109 ดอลลาร์/ยูโร
  • ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ระบุว่า กรณีสหรัฐฯ ประกาศจะระงับการให้สิทธิ
พิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) กับสินค้านำเข้าจากประเทศไทย 573 รายการ หรือราว 40% ของจำนวนสินค้าทั้งหมดของ
ไทยที่ใช้สิทธิ GSP ในปี 2561 โดยให้มีผลบังคับใช้ในอีก 6 เดือนข้างหน้า หรือตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2563 เป็นต้นไปนั้น เมื่อ
พิจารณาในรายละเอียด พบว่า การตัดสิทธิ GSP ของสหรัฐฯ ในรอบนี้จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ โดยรวมไม่มากนัก
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินผลกระทบกรณีสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR)
ประกาศเตรียมยกเลิกการให้สิทธิพิเศษทางภาษีภายใต้ระบบ Generalized System of Preferences (GSP) กับไทยว่า การตัด
สิทธิ GSP ต่อการส่งออกในภาพรวมมีจำกัด โดยมีผลประมาณ 0.01% ของการส่งออกทั้งหมด
  • รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการติดตามความคืบหน้ากรณีสหรัฐจะตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) กับสินค้าไทยว่า วันนี้ได้
มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ไปประสานงานกับเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี และทูตแรงงาน เพื่อจะได้นัดหมาย
ไปหารือกับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ซึ่งได้รับรายงานมาแล้วว่าจะมีการนัดหมายเข้าพบ เพื่อหารือกันในวันศุกร์นี้ (1 พ.ย.)
โดยผลของการหารือจะได้นำเสนอให้ทราบต่อไป
  • ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า นายโรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอด
เอเชียตะวันออก (EAS) ในกรุงเทพฯ สัปดาห์หน้า ซึ่งนับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมระดับ
ภูมิภาค
  • ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดย CNBC Fed Survey ระบุว่า 60% ของผู้ตอบแบบสำรวจ ซึ่งรวมถึงนักเศรษฐศาสตร์ ผู้จัดการกอง
ทุน และนักกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจ พบว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลงในปีนี้และปีหน้า คาดการณ์ว่า การขยาย
ตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปี 2562 อยู่ที่ 1.75% ลดลงจากระดับ 2.9% ในปี 2561 และคาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 2% ในอีกสองปีข้าง
หน้า เนื่องจากผลกระทบของมาตรการภาษีนำเข้า
  • นักลงทุนรอดูผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่จะเสร็จสิ้นการ
ประชุมนโยบายการเงินระยะเวลา 2 วันในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
  • นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์การเจรจาเพื่อทำข้อตกลงการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ หลังสื่อต่างประเทศรายงานว่า
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน อาจไม่มีการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในการประชุมกลุ่มความร่วม
มือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่ประเทศชิลีในเดือนหน้า

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า การที่ผู้นำทั้งสองไม่มีการลงนามในข้อตกลงการค้าในเดือนหน้า มีสาเหตุจากการที่ทั้งสองฝ่ายยังคงต้องใช้ เวลาในการเจรจามากขึ้น

  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้เปิดฉากการประชุมซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันในวันนี้ ในขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่า BOJ จะ

ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจสร้างแรงกดดันให้แบงก์ชาติญี่ปุ่นต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ