นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทอยู่ที่ 30.19 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวในระดับเดียวกับเปิดตลาด เมื่อเช้า ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 30.16-30.19 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ ที่จะประกาศออกมาใน ช่วงนี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ต.ค., ดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เป็นต้น
"ระหว่างวันบาทแกว่งตัวในกรอบแคบๆ รอดูตัวเลขเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่สำคัญ" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 30.15-30.25 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 30.1888 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 108.62 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.66 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1167 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1169 ดอลลาร์/ยูโร
- กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) มีความเห็นต่อผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่กรอบ 1.50-1.75% ตามความคาดหมายของตลาด และเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในปี
นี้ ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยและซื้อขายที่ระดับ 30.19 บาท/ดอลลาร์ในช่วงเปิดตลาดเช้านี้ และมีโอกาสที่จะทดสอบระดับแข็งค่าสุด
ในรอบกว่า 6 ปีครั้งใหม่
- รมว.คลัง ยืนยันจะไม่เข้าไปก้าวก่ายการทำงานและชี้นำการทำงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และ
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หลังที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย
เป็นครั้งที่ 3 โดยเชื่อว่าหน่วยงานเหล่านี้มีข้อมูลในการพิจารณาทั้งที่เป็นสถานการณ์เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจและการเงินเดือนก.ย.62 ว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนก.
ย.62 ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว โดยการส่งออกสินค้าหดตัวต่อเนื่องตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า การผลิตภาคอุตสาหกรรมและ
เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนหดตัว ขณะที่เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายภาครัฐกลับ
มาขยายตัวตามรายจ่ายลงทุน และภาคการท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่องตามจำนวนนักท่องเที่ยวจีนและอินเดียเป็นสำคัญ
- ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากการประเมินตัวเลขล่าสุด
การขยายตัวเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2562 มีแนวโน้มจะไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.9% เนื่องจากการส่งออกและการบริโภคภาค
เอกชนไม่ได้ขยายตัวตามที่คาด โดยแนวโน้มการส่งออกช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 ลดลง -2.7% หากจะทำให้การส่งออกทั้งปีได้ตาม
เป้าที่คาดไว้ที่ -1% การส่งออกในไตรมาส 4 จะต้องขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ส่วนจะมีผลให้เศรษฐกิจทั้งปีเป็นไปตามเป้าที่ 2.8%
หรือไม่ จะต้องขอดูภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาส 4 อีกครั้ง
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษในการประชุมวันนี้ โดยได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ที่ระดับ -0.1% และคงอัตราดอกเบี้ยระยะยาวไว้ใกล้ระดับศูนย์ พร้อมกับคงโครงการซื้อสินทรัพย์จำนวนมากเอาไว้เช่นกัน
- สมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐกำลังพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วน (ชัตดาวน์) ที่อาจเกิดขึ้นใน
เดือนหน้า ด้วยการขยายเวลาสำหรับการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางที่มีอยู่ต่อไปอีกเป็นเวลาหลายสัปดาห์
- โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สหรัฐยังคงคาดหวังว่าจะสรุปเนื้อหาข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนในเดือนพ.ย.
- ด้านกระทรวงพาณิชย์จีนระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า คณะทำงานด้านเศรษฐกิจและการค้าของจีนและสหรัฐยังคงติดต่อกันอย่าง
ใกล้ชิด และมีความคืบหน้าอย่างราบรื่นในการเจรจา แถลงการณ์ระบุด้วยว่า ทั้งสองฝ่ายจะยังคงเดินหน้าหารือกันต่อไปตามแผน และหัว
หน้าคณะเจรจาการค้าของจีนและสหรัฐจะจัดการสนทนาทางโทรศัพท์กันอีกครั้งในวันศุกร์นี้