ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.20/22 การซื้อขายเบาบาง ตลาดขาดปัจจัยใหม่ คาดกรอบพรุ่งนี้ 30.15-30.30

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 14, 2019 17:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.20/22 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อย จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.23 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ตลาดค่อนข้างเงียบเนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่ที่จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงิน มากนัก โดยนักลงทุนรอดูการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้ เช่น ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนต.ค. และยอดค้าปลีกเดือนต.ค.

"วันนี้บาทค่อนข้างทรงตัว ตลาดยังเงียบๆ การซื้อขายเบาบาง เพราะไม่มีปัจจัยใหม่ที่สำคัญมาก" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.15 - 30.30 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.60 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.79 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1100 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1001 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,609.47 จุด ลดลง 5.67 จุด (-0.35%) มูลค่าการซื้อขาย 48,834 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 401.18 ลบ.(SET+MAI)
  • รมว.คลัง ระบุว่า รัฐบาลสามารถดูแลเศรษฐกิจในระยะสั้นได้ดี ซึ่งที่ผ่านมาทั้งกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่ง
ประเทศไทย (ธปท.) ได้ทยอยออกมาตรการเพื่อช่วยดูแลเศรษฐกิจมาเป็นระยะ ส่วนในอนาคตหากเห็นว่าสถานการณ์มีความจำเป็นรัฐบาล
ก็จะพิจารณาออกมาตรการเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศในสายตาของทั้งนักลงทุนไทยและต่างชาติ
  • รมว.คลัง คาดว่า ภายใน 2 สัปดาห์นี้จะมีความชัดเจนของกองทุนใหม่ที่จะเข้ามาทดแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)
ที่จะหมดอายุในสิ้นปีนี้ โดยยืนยันว่าเป้าหมายพื้นฐานของกองทุนใหม่นี้ เพื่อต้องการเน้นให้เกิดการส่งเสริมการลงทุนและการออมในระยะ
ยาว โดยสามารถเข้าถึงกลุ่มประชาชนได้มากขึ้นทั้งวัยทำงานและผู้สูงอายุ ส่วนระยะเวลาของการถือหน่วยลงทุนในกองทุนใหม่จะ
ยาวนานกว่า LTF ที่มีระยะเวลา 7 ปีหรือไม่นั้น ยังอยู่ในการศึกษารายละเอียดและพิจารณาความเหมาะสมของสำนักงานเศรษฐกิจการ
คลัง (สศค.)
  • ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เตรียมเข้าพบ รมว.คลังสัปดาห์หน้า เพื่อรับทราบความคืบหน้า
ใน 4 ประเด็นหลัก คือ 1.แนวทางการให้ SMEs เข้าถึงตลาดเงินตลาดทุนมากขึ้น 2.การให้ความรู้ด้านการลงทุนแก่ประชาชนเพื่อ
เพิ่มนักลงทุนในตลาดทุน 3.แนวทางการพัฒนาตลาดทุน หลังการจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุน 4.ขอทราบความชัดเจนถึงกองทุน
ใหม่ที่จะมาแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่จะหมดอายุในปีนี้
  • นายกรัฐมนตรี ประชุมหารือร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในภาคการท่องเที่ยว ซึ่งได้รับฟังจากภาคธุรกิจ ทั้งผู้
ประกอบการการท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม ร้านค้าปลีก และเมืองหลักเมืองรอง รวมถึงการใช้ประโยชน์จากดิจิทัล รวมถึงเร่งปรับปรุง
กฎหมาย และวิธีการปฏิบัติต่างๆ ที่ยังล้าสมัย
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า หนี้ภาคครัวเรือนในสหรัฐพุ่งขึ้น 9.2 หมื่นล้านดอลลาร์
ใกล้แตะระดับ 14 ล้านล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3/2562 สาเหตุที่ทำให้หนี้ภาคครัวเรือนของสหรัฐปรับตัวขึ้นนั้น เป็นผลมาจากการ
เพิ่มขึ้นของสินเชื่อจดจำนองที่เพิ่มขึ้นถึง 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์ แตะที่ 9.44 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่เงินกู้จากการซื้อรถยนต์ เงินกู้
ด้านการศึกษา และหนี้จากบัตรเครดิตต่างก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน
  • สหรัฐฯ ประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค., จำนวนผู้

ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนต.ค. เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ