ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 30.17/19 แนวโน้มแข็งค่า สวนทางภูมิภาค นลท.ยังมองเป็น safe haven

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 20, 2019 09:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.17/19 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับ เย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.18/20 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทยังมีแนวโน้มจะแข็งค่าได้อีก เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลกับปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจาก มีข่าวล่าสุดว่าวุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติผ่านร่างกฎหมายปกป้องสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าสหรัฐจะเข้ามาแทรกแซงการ เมืองภายในของจีนหรือไม่

ในขณะที่ค่าเงินบาท และเงินเยนยังคงเป็น safe haven ในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ จึงทำให้ทั้งเงินบาทและเงินเย นยังมีทิศทางแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในระยะนี้ ซึ่งสวนทางกับค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค เช่น ดอลลาร์ฮ่องกง, หยวนจีน, ริงกิต มาเลเซีย และรูเปียห์อินโดนีเซียที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.10-30.25 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (19 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.18429% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.16193%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.41/44 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 108.75/78 บาท/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1071/1072 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1066/1069 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.1850 บาท/ดอลลาร์
  • โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมครม.นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำ
งานของครม.เศรษฐกิจใหม่ โดยให้ยึดโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยต้องการให้การดูแลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต้องดูแลประชาชนใน
ทุกระดับโดยเฉพาะระดับฐานราก ที่ควรจะลงลึกในรายละเอียดและสื่อสารให้ประชาชนรับทราบว่ารัฐบาลได้ดูแลแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
ในทุกระดับ เพื่อบรรเทาภาระให้กับประชาชน พร้อมกับจัดลำดับความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในเรื่องต่าง ๆ
  • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม พร้อมสถาบันยานยนต์จับมือกับ 'เจโทร' ร่วมพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าในไทย หลังพบแนวโน้ม
เติบโตต่อเนื่องหลายปี พร้อมดันไทยเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และชิ้นส่วนอื่นๆ ครบวงจร
  • เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยถึงแนวโน้มคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนปี 2562 ช่วงสุด
ท้ายของปีว่า บีโอไอยังคงกำหนดเป้าหมายคำขอไว้ที่ 7.5 แสนล้านบาท โดยจะพยายามทำให้ได้ตามเป้าหมาย แม้ช่วง 9 เดือนแรกของปี
นี้(มกราคม-กันยายน 2562) จะอยู่ที่ 1,165 โครงการ มูลค่า 3.14 แสนล้านบาท ซึ่งช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีจะพยายามดึงการลงทุน
ให้มากที่สุด เน้นเจรจาเจาะรายบริษัท และจัดคณะชักจูงการลงทุนระดับบีโอไอ
  • ที่ประชุม ครม.รับทราบรายงานของกระทรวงการคลังว่าจะคงอัตราเรียกเก็บเงินนำส่งจากสถาบันการเงินให้กับธนาคาร
แห่งประเทศไทย (ธปท.) ไว้ที่ 0.46% ของฐานเงินฝากเช่นเดิม ทั้งนี้ ธปท.เห็นว่าควรให้คงอัตราเรียกเก็บเงินนำส่งจากสถาบันการ
เงินที่ 0.46% ต่อปี
  • สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN) ออกแถลงการณ์ตำหนิการใช้ความรุนแรงของกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้อง
ประชาธิปไตยของฮ่องกง พร้อมกับแสดงความกังวลว่าสถานการณ์อาจเลวร้ายลง
  • วุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งครองเสียงข้างมากโดยพรรครีพับลิกัน ผ่านร่างกฎหมาย Hong Kong Human Rights and
Democracy Act เพื่อให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงแล้ว โดยคาดว่าจะส่งให้นายโดนัลด์ ทรัมป์
ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงนามเพื่อบังคับใช้เร็ว ๆ นี้
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก แสดงความพอใจต่อนโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ แต่
เฟดควรพร้อมที่จะดำเนินการในเชิงรุกเพื่อรับมือกับภาวะทรุดตัวของเศรษฐกิจที่คาดไม่ถึง พร้อมมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะที่แข็ง
แกร่งอย่างมาก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายในระยะยาวของเฟด
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์ยูโร, ฟรังก์สวิส และดอลลาร์แคนาดา ในการซื้อขายที่ตลาด
ปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนยังคงระมัดระวังในการซื้อขาย เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับความ
คืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาว
โจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงเมื่อคืนนี้ อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สกัด
แรงบวกของตลาดในระหว่างวัน
  • สหรัฐเตรียมเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ได้แก่ สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ
(EIA) และรายงานการประชุมวันที่ 29-30 ต.ค. ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) โดยมี
กำหนดการเปิดเผยตรงกับช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 21 พ.ย.ตามเวลาไทย
  • นักลงทุนในตลาดรอคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวัน
ที่ 29-30 ต.ค.ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งตรงกับช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 21 พ.ย.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ