(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 30.21/22 ขานรับความหวังเจรจาการการค้าคืบหน้า มองกรอบวันนี้ 30.15-30.30

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 25, 2019 11:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.21/22 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวัน ศุกร์ที่ระดับ 30.19 บาท/ดอลลาร์

ทิศทางของเงินบาทในวันนี้คาดว่าจะยังนิ่งๆ เนื่องจากตลาดยังรอติดตามปัจจัยสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งล่าสุดมี ข่าวว่าผู้เจรจาการค้าของสหรัฐฯ จะเดินทางไปปักกิ่ง เพื่อเจรจากันแบบตัวต่อตัวรอบใหม่ ในช่วงก่อนวันขอบคุณพระเจ้าในสัปดาห์นี้ ซึ่ง ตลาดคงรอดูว่าจะมีข้อตกลงระหว่างกันออกมาอย่างไร

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.15-30.30 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (22 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.19139% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.16939%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 30.2225 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.75/78 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 108.53 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1022/1026 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1060 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.2080 บาท/ดอลลาร์
  • ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ (25-29 พ.ย.) ที่ 30.10-30.40 บาทต่อ
ดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยในประเทศที่ตลาดรอติดตาม ได้แก่ รายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนต.ค. โดยธปท. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ
ประกอบด้วย สถานการณ์การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ
เฟด ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนก.ย. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย ยอดสั่ง
ซื้อสินค้าคงทน รายได้/รายจ่าย และตัวเลขเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนี PCE/Core PCE Price Indices เดือนต.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้
บริโภคเดือนพ.ย. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/62 (preliminary) และรายงาน Beige Book ของเฟด
  • ผู้ว่าการ ธปท. มองแนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนในระยะต่อไปมีความผันผวนมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันเงินบาทแข็งค่ากว่าสกุลเงินอื่น
ในภูมิภาค และยอมรับว่าแข็งค่าเกินกว่าปัจจัยพื้นฐานของประเทศแล้ว ซึ่งสถานการณ์ต่างประเทศเป็นปัจจัยหลักสำคัญที่มีผลต่อการกำหนดทิศ
ทางอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นต้องการให้ภาคเอกชนบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนให้ดี เนื่องจากตลาดการเงินที่มีสภาพคล่องส่วนเกินอยู่
ในระดับสูง ความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนก็จะเพิ่มสูงขึ้น
  • ผู้ว่าการ ธปท. ยอมรับเศรษฐกิจไทยปี 62 อาจเติบโตได้ต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 2.8% หลังพบว่า GDP ไตรมาส
3/62 ออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่ง ธปท.จะมีการทบทวนสถานการณ์เศรษฐกิจและปัจจัยแวดล้อมต่างๆ เพื่อประเมินตัวเลข GDP สำหรับปี 62
ใหม่อีกครั้งในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ ขณะที่มองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 63 จะดีขึ้นกว่าปีนี้
  • คลังจ่อชง ครม.ขอไฟเขียวมอบของขวัญปีใหม่เพิ่มดันกระตุ้น ศก.ไตรมาส 4 เร่งด่วน เม็ดเงินกว่า 5 หมื่นล้านเล็งพักหนี้
เงินต้นผู้กู้แบงก์ 1 ปี
  • "สภาธุรกิจตลาดทุนไทย" เตรียมหารือ "คลัง" หวังเพิ่มวงเงินสิทธิลดหย่อนภาษีกองทุนใหม่ หลังมีกระแสข่าวว่าให้สิทธิลด
หย่อนรวม "อาร์เอ็มเอฟ" ไม่เกิน 5 แสนบาท เหตุวัตถุประสงค์ลงทุนแตกต่างกัน พร้อมเห็นด้วยที่รัฐสนับสนุนการลงทุนระยะยาวในตลาด
หุ้นไทย
  • รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) และในฐานะประธานกิตติมศักดิ์ กลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์และ
บรรจุภัณฑ์ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ส.อ.ท.มองไปในทิศทางเดียวกับทาง สำนักงาน สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์)ที่ได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี)ทั้งปีเหลือโต 2.6% จากเดิม 2.8%
  • ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่าฝ่ายวิจัยได้ปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจด
ทะเบียน (บจ.) ปี 62 ลง 36,200 ล้านบาท คิดเป็น 3.6% เหลืออยู่ที่ 964,000 ล้านบาท ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 990,000
ล้านบาท เนื่องจากการประกาศงบไตรมาส 3 ปี 62 มี บจ.รายงานงบแล้ว 585 บริษัท คิดเป็น 92% ของมูลค่าตามราคาตลาด
(มาร์เก็ตแคป) ทำกำไรสุทธิรวมกัน 213,000 ล้านบาท ลดลง 17.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลกระทบจาก
สงครามการค้าที่ยืดเยื้อ ส่งผลต่อการดำเนินงานและประกอบการลดลง
  • ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงินเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการ
ผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.9 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน หลังจากแตะระดับ
50.9 ในเดือนต.ค.
  • ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 96.8 ในเดือนพ.ย. สวนทาง
กับนักวิเคราะห์ที่คาดว่า ดัชนีจะลดลงสู่ระดับ 94.9 หลังจากแตะระดับ 95.5 ในเดือนต.ค.
  • สื่อของสหรัฐฯ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า จีนได้เชิญให้ผู้เจรจาการค้าของสหรัฐฯ มาเจรจาตัวต่อตัวรอบใหม่ที่กรุง
ปักกิ่ง ในช่วงวันหยุดขอบคุณพระเจ้าในสัปดาห์นี้ ขณะที่ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ยืนยันว่าจีนต้องการร่วมมือกับสหรัฐในการทำข้อตกลงการ
ค้าเฟสแรก บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน และความเท่าเทียมกัน
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่เดือน ต.ค., ความเชื่อมั่นผู้

บริโภคเดือนพ.ย.จาก Conference Board, GDP ไตรมาส 3/2562 (ประมาณการครั้งที่ 2), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน

รายสัปดาห์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ