BAY คาดกรอบบาทสัปดาห์นี้ 30.15-30.35 ตลาดจับตาธปท.ดูแลค่าเงิน-มาตรการการคลังชุดใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 25, 2019 16:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.15-30.35 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 30.19 บาทต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1.0 พันล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 600 ล้านบาท ขณะที่กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายยังคงซึมลง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับลดลงเล็กน้อย ท่ามกลางกระแสข่าวการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ยังขาดความชัดเจน

อย่างไรก็ตาม รายงานการประชุมวันที่ 29-30 ต.ค.62 ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) บ่งชี้ว่าเฟดไม่รีบที่ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปทางใดทางหนึ่ง หลังจากตัดสินใจลดดอกเบี้ยไปแล้วในการประชุม 3 ครั้งหลังสุด

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะยังคงให้ความสนใจกับประเด็นทางการค้าของสหรัฐฯ กับจีน ท่ามกลางความตึงเครียดในฮ่องกง นอกจากนี้ นักลงทุนจะจับตาสุนทรพจน์ของประธานเฟด ตัวเลขจีดีพี และการใช้จ่ายส่วนบุคคลของสหรัฐฯ ก่อนที่การซื้อขายในตลาดการเงินจะเบาบางลงช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้าท้ายสัปดาห์ ทั้งนี้ ตลาดจะให้ความสนใจกับยอดค้าปลีกวัน Black Friday ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยประจำปี เพื่อประเมินความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และนโยบายของเฟดต่อไป

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ความเห็นว่าดอกเบี้ยนโยบายของไทยอยู่ในระดับต่ำมากแล้ว และเชื่อว่าไทยไม่ต้องใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ เพราะอาจจะนำมาซึ่งปัญหาเชิงโครงสร้าง ขณะที่แม้เงินเฟ้อจะไม่ใช่สิ่งที่กังวล แต่ความเสี่ยงของเสถียรภาพระบบการเงินมีมากขึ้น

ส่วนแนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนในระยะถัดไป ธปท.ประเมินว่าจะผันผวนมากขึ้น เราตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความเห็นของ ธปท.ที่ว่าเงินบาทในปัจจุบันแข็งค่ากว่าโครงสร้างและปัจจัยพื้นฐาน โดยได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอกที่คาดเดาไม่ได้ และ ธปท.จะทบทวนการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินให้ยืดหยุ่นเหมาะสมกับเศรษฐกิจ รวมทั้งจะทบทวนการบริหารเงินสำรองระหว่างประเทศ ท่าทีดังกล่าว ทำให้เราคาดว่า ธปท.ต้องการใช้ทางเลือกนโยบายอื่นที่ไม่ใช่เครื่องมือดอกเบี้ย

อย่างไรก็ดี ข้อมูลเศรษฐกิจที่ยังคงบ่งชี้ถึงแนวโน้มอ่อนแอ เช่น ยอดส่งออกและนำเข้าเดือนต.ค.ของไทยที่หดตัวมากกว่าคาด อาจสร้างแรงกดดันต่อผู้ดำเนินนโยบายการเงิน นอกจากนี้ ตลาดจะเฝ้าระวังหากมีการปรับกฎระเบียบเกี่ยวกับการดูแลค่าเงินบาทของ ธปท. รวมถึงทิศทางมาตรการด้านการคลังชุดใหม่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ