ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.21 ทรงตัวจากช่วงเช้า คาดพรุ่งนี้ยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ รอปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 26, 2019 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 30.21 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวใกล้เคียงกับ เปิดตลาดเช้า เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา และรอดูความชัดเจนเรื่องสงครามการค้า ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 30.21-30.24 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้บาทแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ตลาดยังไร้ทิศทาง รอปัจจัยใหม่เข้ามา ความชัดเจนเรื่องสงครามการค้า วันพฤหัสฯ ตลาด สหรัฐปิดทำการ พรุ่งนี้คงแกว่งตัวในกรอบ" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.15-30.25 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 108.95 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.85/109.30 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1016 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0990/1035 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,609.38 จุด ลดลง 5.42 จุด, -0.34% มูลค่าการซื้อขาย 87,951.52 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่มต่างชาติขายสุทธิ 2,037.34 ล้านบาท (SET+MAI)
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 62 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ใน 3 มาตรการ ได้แก่ โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก, มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และมาตรการลด
ภาระการซื้อที่อยู่อาศัย ภายใต้โครงการ "บ้านดีมีดาวน์"
  • รมว.คลัง คาดว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 62 จะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาส 4/62 ให้เติบ
โตได้ดีพอสมควร ซึ่งทำให้ทั้งปีมีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ในระดับ 2.6% ตามการคาดการณ์ของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ (สศช.) และยังเป็นแรงส่งต่อเนื่องไปถึงเศรษฐกิจไทยในปี 63 ด้วยเช่นกัน
  • รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลอาจจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเป็นของขวัญปีใหม่ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยราย
ละเอียดได้ในขณะนี้
  • อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เผยการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลง FTA ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 (ม.
ค.-ก.ย.) มีมูลค่า 50,312.06 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 78.25% ของมูลค่าการส่งออกรวมในรายการสินค้าที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทาง
การค้าซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 64,296.03 ล้านดอลลาร์ ลดลง 3.41% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
  • ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลศึกษาภาพรวมการค้าของอาเซียน การ
ค้าของจีนใน CLMV ที่มีผลกระทบต่อไทย โดยคาดว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือตั้งแต่ปี 63-67 สินค้าไทยจะถูกสินค้าจีนแย่งตลาด CLMV
และมูลค่าส่งออกไทยในตลาดดังกล่าวหายไป 187,795 ล้านบาท หรือ 23.83% ของมูลค่าการส่งออกไทยไป CLMV
  • รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในเดือนต.ค.62 มียอดธุรกิจจัดตั้งใหม่อยู่ที่ 5,751 ราย ลดลง 1,203
ราย หรือคิดเป็น 17% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย.62 ที่มีจำนวน 6,954 ราย และลดลงจำนวน 446 ราย หรือคิดเป็น 7% เมื่อเทียบกับ
เดือน ต.ค.61 ที่มีจำนวน 6,197 ราย โดยคาดว่าในปี 2562 จะมีสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานฉบับใหม่ระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ในเขตต่างๆมากกว่าครึ่งของสหรัฐได้ปิด
สาขาลงในระหว่างปี 2555-2560 โดยเขตที่มีผู้มีการศึกษาน้อยและมีชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่นั้น ได้รับผลกระทบมากที่สุด
  • นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างจีนและสหรัฐ ภายหลังจากที่นายหลิว
เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน และเป็นหัวหน้าคณะเจรจาการค้าของจีน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนาย
โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ในเช้าวันนี้
  • กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เตรียมจัดการเจรจรา
รอบใหม่เกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีระดับไตรภาคี (FTA) ที่กรุงโซล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ