ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.23/24 แกว่งแคบ ตลาดเงียบ-ไร้ปัจจัยสำคัญ คาดกรอบพรุ่งนี้ 30.19 -30.27

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 27, 2019 17:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.23/24 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อย จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.22/23 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบมาก ระหว่างวันเคลื่อนไหวเพียง 2-3 สตางค์ โดยอ่อนค่าสุดที่ระดับปิดตลาดในช่วง เย็น เนื่องจากการซื้อขายค่อนข้างเงียบ เพราะไม่มีปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อค่าเงินบาทมากนักในวันนี้

"วันนี้บาทแกว่งแคบมาก แค่ 2-3 สตางค์ ตลาดเงียบๆ คงเพราะไม่มีปัจจัยอะไรสำคัญ" นักบริหารเงินระบุ

อย่างไรก็ดี คืนนี้ต้องรอดูสหรัฐฯ รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3/62 ว่าจะออกมาดีหรือไม่ หากตัวเลขออกมาดีก็มี โอกาสที่ดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้นได้

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.19 - 30.27 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.15 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.11/14 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1010 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1016/1018 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,607.27 จุด ลดลง 2.11 จุด (-0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 51,262 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,075.17 ลบ.(SET+MAI)
  • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ต.ค.62 ลดลงจากช่วง
เดียวกันของปีก่อน 8.45% มาอยู่ที่ระดับ 95.70 จากผลของการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่ง รวมทั้งได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ
โลกและการค้าที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง สศอ.จึงได้ปรับลดคาดการณ์ดัชนี MPI ในปีนี้ลงเหลือ -3.8% และคาดการณ์ปี 63 ดัชนี MPI จะ
ขยายตัวได้ 2-3%
  • ธนาคารกสิกรไทย คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตได้ 2.8% การส่งออกลดลง -1% ขณะที่มองว่าค่าเงินบาท ณ สิ้นปีนี้จะอยู่ที่
ระดับ 30.50 บาท/ดอลลาร์ ส่วนปี 63 ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ 2.7% ลดลงจากปีนี้ ขณะที่การส่งออกจะลดลง -2% เนื่อง
จากปัญหาสงครามการค้าที่ยังคงยืดเยื้อ และมองว่าเงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่า เนื่องจากคาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดยังคงเกินดุลในระดับ 3
หมื่นล้านดอลลาร์
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิเดือนต.ค.62 ว่า รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ
จำนวน 241,822 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 6,946 ล้านบาท หรือ 3.0% และสูงกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน
45,431 ล้านบาท หรือ 23.1% โดยการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจและการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร สูงกว่าประมาณการ
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เผยฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด เดือนต.ค.62 ซึ่งเป็นเดือน
แรกของปีงบประมาณ 2563 พบว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 255,924 ล้านบาท ในขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น
จำนวน 368,209 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 385,292 ล้านบาท
  • ธนาคารกลางจีนได้ออกมาตรการ central bank bills swap (CBS) ครั้งที่ 6 ในวันนี้ เพื่อปรับปรุงสภาพคล่องของ
หุ้นกู้ที่ไม่กำหนดวันไถ่ถอน (perpetual bond) ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ โดยมาตรการ CBS วงเงิน 6 พันล้านหยวน (ราว 852.9
ล้านดอลลาร์สหรัฐ) นั้น จะเปิดให้ดีลเลอร์เสนอซื้อหุ้นกู้ โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.1% และจะครบกำหนด swap ในวันที่ 27 ก.พ.63
  • สภาคองเกรสของสหรัฐ เตรียมเชิญประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าฟังการไต่สวนครั้งแรกในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็น
กระบวนการเพื่อถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่ง โดยการไต่สวนครั้งนี้ จะตรวจสอบว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้วิธีการข่มขู่เรื่องการถอนความ
ช่วยเหลือของกองทัพสหรัฐฯ เพื่อกดดันให้ยูเครนสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และบุตรชายหรือไม่
  • นางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดควรปรับเป้าหมายอัตราเงิน
เฟ้อให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น จากเดิมที่กำหนดไว้ตายตัวที่ระดับ 2% หลังจากที่เงินเฟ้อปรับตัวต่ำกว่าระดับเป้าหมายมาเป็นเวลา
นาน และเป็นการส่งสัญญาณว่า อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐจะปรับตัวขึ้นเป็นระยะเวลาที่พอๆ กัน
  • คืนนี้ ติดตามการรายงาน GDP ไตรมาส 3/62 ของสหรัฐ ส่วนการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ที่สำคัญในสัปดาห์

นี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนต.ค., จำนวนผู้ขอรับ

สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ