(เพิ่มเติม) คลังประกาศมาตรการเสริมรองรับหลังยกเลิก 30% แปลงหนี้ตปท.-หันกู้ในปท.แทน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 29, 2008 18:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ประกาศมาตรการรองรับสถานการณ์ภายหลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30% เงินทุนนำเข้าระยะสั้นที่จะมีผลในวันที่ 3 มี.ค.นี้ โดยมาตรการของกระทรวงการคลังจะเน้นไปที่การลดแรงกดดันค่าเงินบาท และการสนับสนุนให้ออกไปลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ 
"เพื่อเป็นการรองรับความผันผวนที่อาจจะมีขึ้นจากการปรับตัวในระยะแรกภายหลังจากการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30%และเพื่อเป็นการวางรากฐานในการสร้างความสมดุลระหว่างเงินทุนไหลเข้าและไหลออกให้เป็นไปตามกลไกตลาด กระทรวงการคลังจึงได้เตรียมมาตรการสนับสนุนไว้"เอกสารเผยแพร่ของ ก.คลัง ระบุ
ในระยะเร่งด่วน กระทรวงการคลังจะประสานร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เร่งแปลงหนี้ต่างประเทศของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจที่มีอยู่ในปัจจุบันที่เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศให้เป็นสกุลเงินบาท (Swap และ Refinancing) ในวงเงินรวมประมาณ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท
รวมทั้ง ชะลอการกู้เงินต่างประเทศในช่วงนี้ และจะระดมทุนจากแหล่งเงินภายในประเทศเป็นหลัก ด้วยการเพิ่มวงเงินการออกพันธบัตรออมทรัพย์ให้แก่ประชาชนรายย่อยและจัดโควต้าพิเศษสำหรับผู้รับบำนาญ วงเงิน 12,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันจะมีการออกพันธบัตรระยะยาวอายุ 30 ปี เพื่อเตรียมการระดมทุนสำหรับการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ (Mega Projects)
หลังจาก พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะมีผลบังคับใช้ กระทรวงการคลังจะเร่งออกพันธบัตรกู้เงินบาทเพื่อระดมเงินจากในประเทศไปลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ, ดูแลให้สถาบันการเงินของรัฐบาลขยายการลงทุนในต่างประเทศ และ สนับสนุนให้กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนประกันสังคม และกองทุนรวมที่รัฐบาลกำกับดูแล นำเงินไปลงทุนในแหล่งที่เหมาะสมในต่างประเทศมากขึ้น
และ ปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ และขยายกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่จะช่วยส่งเสริมให้สถาบันและบุคคลในประเทศสามารถถือเงินตราต่างประเทศหรือนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากมาตรการผ่อนคลายการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่ได้ประกาศใช้มาก่อนหน้านี้
กระทรวงการคลัง ยังจะมีมาตรการวางรากฐานในการสร้างความสมดุลระหว่างเงินทุนไหลเข้าและไหลออก และมาตรการกระตุ้นและเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยสนับสนุนให้ภาคเอกชนเร่งลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตมากขึ้น โดยให้ผู้ลงทุนสามารถหักค่าเสื่อมราคาของสินค้าทุนได้เร็วขึ้น กำกับดูแลการเบิกจ่ายเงินลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ (Mega Projects) ของภาครัฐให้เป็นไปตามกำหนดเวลา รวมทั้งช่วยจัดหาแหล่งเงินทุนที่เหมาะสม
เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายและผลักดันให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายเงินให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ใช้กลไกสถาบันการเงินเฉพาะกิจและสถาบันการเงินของรัฐเป็นแหล่งเงินทุนในอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนการเงินให้แก่ประชาชนในระดับฐานราก และให้แก่ผู้ประกอบการที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบธนาคารพาณิชย์ได้ตามปกติ
นพ.สุรพงษ์ เชื่อว่า ธปท.จะมีมาตรการรับมือผลกระทบจากการยกเลิกมาตรการสำรอง 30% ตลอดทั้งสัปดาห์หน้า โดยในช่วงสุดสัปดาห์ 2 วันนี้จะพยายามชี้แจงทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่าสิ่งที่ ก.คลังและแบงก์ชาติได้ดำเนินการนั้น เป็นไปอย่างรอบคอบ และได้เตรียมการมานานพอสมควรแล้วก่อนที่จะตัดสินใจ ดังนั้นเชื่อว่าวันจันทร์นี้ หลังเปิดทำการแบงก์ชาติจะมีมาตรการเพื่อรองรับกับผลที่จะเกิดขึ้นตลอดสัปดาห์
สำหรับมาตรการที่สำคัญที่จะต้องดำเนินการในช่วงต่อไป คือ การสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้ตามเป้าหมาย ซึ่งในสัปดาห์หน้า กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และเชื่อว่าจะทำให้เกิดความมั่นใจและปัญหาผลกระทบการไหลเข้าของเงินดอลลาร์จะหมดไปได้
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะเริ่มมาตรการแปลงหนี้ต่างประเทศของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจเป็นเงินบาทตั้งแต่วันจันทร์ที่ 3 มี.ค.เป็นโอกาสดีที่คลังจะได้สว็อปหนี้
ส่วนมาตรการระดมเงินกู้ภายในประเทศ ผ่านการออกพันธบัตรออมทรัพย์เพิ่มเติมอีก 1.2 หมื่นล้านบาท จากเดิมกำหนด 6 พันล้านบาท ทำให้ช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ 51 จะเพิ่มวงเงินการออกพันธบัตรขายจากเดือนละ 500 เป็น 2,000 ล้านบาท และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยน่าจะสูงขึ้นเป็นที่น่าสนใจจากผู้ลงทุน
สำหรับการออกพันธบัตรระยะยาว 30 ปีเพื่อลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็กท์นั้น คาดว่าจะเป็นการออกเพื่อชดเชยการขาดดุลงบปะมาณก่อน เป็นวงเงินประเดิมก่อน แต่ยังไม่ได้กำหนดวงเงินที่ชัดเจน เนื่องจากโครงการเมกะโปรเจ็คต์จะเป็นการใช้เงินจริงช่วงปลายปีนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ