ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 30.22 ยังไร้ปัจจัยใหม่ ตลาดยังรอความชัดเจนเจรจาการค้า-ตัวเลข ศก.สำคัญของสหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 2, 2019 09:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.22 บาท/ดอลลาร์ ค่อนข้าง ทรงตัวจากช่วงเย็นวันศุกร์

"ภาพรวมยังทรงตัว และคาดว่าวันนี้น่าจะยังแคบลงอีกเนื่องจากยังไร้ปัจจัยใหม่ เพราะการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับ จีนยังตกลงกันไม่ได้ ขณะที่ตลาดรอดูตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะรายงานออกมาในช่วงกลางและปลายสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนี ภาคการผลิตและภาคบริการเดือน พ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน พ.ย.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน พ.ย."นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทระหว่าง 30.15 - 30.25 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (29 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.12656% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.13903%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.68 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ (29 พ.ย.) ที่อยู่ที่ระดับ 109.54 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1017 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ (29 พ.ย.) ที่อยู่ที่ระดับ 1.1006 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.227 บาท/
ดอลลาร์
  • ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทระหว่าง 2-6 ธ.ค. ที่ 30.10-30.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ
โดยปัจจัยในประเทศที่สำคัญ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย. ของไทย ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ ประกอบด้วย สถานการณ์ตึง
เครียดในฮ่องกงและการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร
อัตราการว่างงาน ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชน ดัชนี ISM ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนพ.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงาน ราย
จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นสำหรับเดือนธ.ค. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามดัชนี PMI ภาค
การผลิตและภาคบริการเดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ และประเทศชั้นนำอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุดัชนีภาวะการเงินไทยโดยรวมในไตรมาส 3 ตึงตัว
ขึ้นมาอยู่ที่ -1.33% ซึ่งยังคงเป็นระดับที่ตึงตัวกว่าค่าเฉลี่ยระหว่างปี 2545-2562 (สะท้อนจากตัวเลขดัชนีภาวะการเงินที่ติดลบ) โดย
SCB EIC พบว่า ภาวะการเงินที่กลับตึงตัวขึ้น เป็นผลจากค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดยถึงแม้ว่าการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ในเดือนสิงหาคมจะไม่เป็นไปตามที่ตลาดคาด แต่ก็ไม่สามารถทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงได้อย่างมีนัย เนื่องจากดุลบัญชีเดินสะพัดไทยยังคง
เกินดุลในระดับสูงและธนาคารกลางประเทศอื่น ๆ ต่างก็ผ่อนคลายนโยบายลงเช่นกัน
  • ฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยบทวิเคราะห์เรื่องสถานะการณ์การจ้างงานไทย โดย
ฝ่ายวิจัยคาดว่าสถานการณ์การจ้างงานในปี 63 จะย่ำแย่ลงกว่าปีนี้ เป็นผลจากปัจจัย ดังนี้ 1.แนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในช่วงขาลง โดยการค้า
โลกที่ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว ขณะที่สต็อกสินค้าที่ยังอยู่ในระดับสูง จะเป็นปัจจัยกดดันภาคการผลิตไปอีกอย่างน้อยครึ่งแรกของปีหน้า 2.ผลกระทบต่อ
แรงงานในรอบนี้เกิดขึ้นในวงกว้างทำให้การลดลงของการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรม ไม่สามารถถูกชดเชยได้ด้วยการเพิ่มการจ้างงานในภาค
เกษตรและภาคบริการเหมือนในอดีต
  • ธปท.เดินหน้า แก้ไขปัญหาหนี้รายย่อยต่อเนื่อง ล่าสุดเตรียมขยายเกณฑ์ "คลินิกแก้หนี้"ให้ลูกหนี้เอ็นพีแอลรายใหม่ที่เป็นหนี้เสีย
หลัง 1 ม.ค.62 เข้าร่วมโครงการได้ ทั้งต้นปีหน้าอาจเปิดให้ลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างดำเนินคดีเข้าร่วมด้วย หวังช่วยเหลือ ลูกหนี้ในวงกว้าง พร้อมลุย
ถกคณะทำงาน เล็งช่วยลดภาระดอกเบี้ย-ค่าใช้จ่าย ให้ลูกหนี้ดี แต่เริ่มมีสัญญาณผิดนัดชำระก่อนลามเป็นหนี้เสีย
  • "สมคิด" ส่งสัญญาณไตรมาส 4 ฟื้น จีดีพีทั้งปีโต 2.4% แนะเอกชนรับมือบาทแข็ง ชี้สหรัฐจับตาแทรกแซง ค่าเงิน ชี้ว่างงานต่ำ
เพียง 1% ถือว่าปกติ "หอการค้า" ชงแผนดันจีดีพีปีหน้าโต 3% ห่วงซื้อสินค้าออนไลน์ต่างประเทศปีละ 1 แสนล้านบาท ทุบเศรษฐกิจย่านการค้า
  • สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานในวันนี้ว่า รัฐบาลไทยและฮ่องกงได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อขยายความร่วมมือด้าน
การค้าและการลงทุนร่วมกัน 6 ฉบับ ในระหว่างการเดินทางประเทศไทยของนางแครี ลัม ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR)
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ (29 พ.
ย.) ท่ามกลางภาวะซื้อขายที่เบาบางหลังวันหยุด โดยตลาดปิดทำการเมื่อวันพฤหัสบดีเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตา
แนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ (29 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจาก
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง และดอลลาร์อ่อนค่า
  • หนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สของรัฐบาลจีนรายงานว่า ทางการจีนยังคงยืนกรานว่า การยกเลิกมาตรการภาษีสินค้านำเข้าจะต้องเป็น
ส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้าเฟสแรก โดยสหรัฐมีกำหนดเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 15% วงเงิน 1.56 แสนล้านดอลลาร์ ในวันที่
15 ธ.ค.ที่จะถึงนี้
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ได้แสดงมุมมองเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างระมัดระวัง พร้อมกับส่งสัญญาณว่า ธนาคาร
กลางจีนยังไม่มีแผนที่จะใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินครั้งใหญ่
  • สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานเดือนต.ค.ในยูโรโซนลดลงสู่ระดับ 7.5%
จากระดับ 7.6% ในเดือนก.ย. โดยอัตราว่างงานเดือนต.ค.เป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2551
  • สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนในเดือนพ.ย. เพิ่ม
ขึ้นที่ระดับ 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่เร็วขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบสามปีที่ 0.7% ในเดือนต.
ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.9%
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 51.8 ในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น
จากระดับ 51.7 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 51.5

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ