ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 30.27 แนวโน้มแข็งค่าหลังดอลล์อ่อน วิตกสงครามการค้า มองกรอบวันนี้ 30.20-30.35

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 3, 2019 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 30.27 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ระดับ 30.28 บาท/ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลง เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาเมื่อคืนนี้ไม่ค่อยดี ประกอบกับมีความกังวล เรื่องสงครามการค้าเพิ่มเติม กรณีสหรัฐขัดแย้งกับบราซิลและอาร์เจนตินา

"บาทมีแนวโน้มแข็งค่า เนื่องจากมีปัจจัยกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่า จากความกังวลเรื่อง trade war" นักบริหารเงิน
กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 30.20 - 30.35 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (30 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.13511% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.13587%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 109.12 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 109.63 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1074 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1014 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.2450 บาท/
ดอลลาร์
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ธ.
ค.) หลังจากดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของ
สหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนและตัวเลขจ้างงานนอกภาค
การเกษตรประจำเดือนพ.ย.
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในวันนี้ระบุว่า เขาจะประกาศเรียกเก็บภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมนำเข้า
จากบราซิลและอาร์เจนตินา นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังเรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อไม่ให้สหรัฐ
เสียเปรียบต่อประเทศคู่แข่ง
  • คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นเป็น
100% ในวงเงินราว 2.4 พันล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้ฝรั่งเศสที่วางแผนเก็บภาษีดิจิทัลจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐ
อาทิ อเมซอน กูเกิล แอปเปิล และเฟซบุ๊ก
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค.) ขานรับดัชนีภาคการผลิตของจีนที่
ขยายตัวแข็งแกร่งในเดือนพ.ย. รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะตัดสินใจขยายเวลาการปรับลด
กำลังการผลิตน้ำมัน รวมทั้งปรับลดการผลิตน้ำมันในปริมาณที่เพิ่มขึ้น ในการประชุมสัปดาห์นี้

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 55.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 60.92 ดอลลาร์/บาร์เรล

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค.) หลังจากการเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของจีน
ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 3.50 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 1,469.20
ดอลลาร์/ออนซ์
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นในวันนี้ แม้ว่าสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่ปรับตัวอ่อนแอกว่าที่คาด
การณ์ไว้ แม้ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.6 ในเดือน พ.ย.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใน
รอบ 7 เดือน จากระดับ 51.3 ในเดือน ต.ค.
  • China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนในวันนี้อยู่ที่
ระดับ 7.0223 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.0039 หยวน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ