รมว.คลัง ยันไม่ทิ้งการลงทุนเชื่อไทยยังเนื้อหอม แต่ระยะสั้นจำเป็นกระตุ้นใช้จ่ายประคองศก.ในประเทศ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 13, 2019 13:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวในการเปิดงาน"ไทยแลนด์ สมาร์ท มันนี่ กรุงเทพฯ" ครั้งที่ 10 ว่า ขณะนี้เศรษฐกิจโลกอาจยังอยู่ในภาวะที่ไม่ดีนัก ซึ่งประเทศไทยคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่โดนผลกระทบ ดังนั้น รัฐบาลจึงทยอยออกมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ แม้จะเชื่อว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปีหน้าน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ในระหว่างนี้ที่อะไรก็ยังมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้ จึงทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องสร้างความแข็งแกร่งภายในประเทศไว้เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันสำหรับอนาคต

"ตอนนี้เศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดี เราก็โดนผลกระทบไปด้วย แต่ก็ต้องดูแลกันไป รัฐบาลก็มีมาตรการต่างๆ ออกมา ซึ่งสุดท้ายมันก็ต้องทำให้เกิดความเชื่อมั่น ทำให้มีกำลังใจเพื่อให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้...เชื่อว่าปีหน้าจะดีขึ้น แต่เหตุการณ์โลกก็ยังมีความไม่แน่นอน เราต้องทำตัวเราให้แข็งแกร่ง เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันไว้รองรับ" รมว.คลังระบุ

นายอุตตม กล่าวถึกรณีที่นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO) มองว่า นโยบายการแจกเงินเป็นเพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นไม่ก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และไม่สามารถก่อให้เกิดการลงทุนในภาคเอกชนได้นั้น นายอุตตม กล่าวว่า ในเรื่องการลงทุนเป็นสิ่งจำเป็นที่รัฐบาลต้องดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ได้พยายามเร่งเดินหน้าและผลักดันโครงการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) แต่ขณะเดียวกัน การดูแลเศรษฐกิจในระยะสั้นก็มีความจำเป็น ซึ่งรัฐบาลต้องการให้ในประเทศมีเม็ดเงินหมุนเวียนจากการจับจ่ายใช้สอย และการบริโภคภายประเทศ เพราะหากไม่มีในส่วนนี้ เศรษฐกิจก็จะไม่เกิดการหมุนเวียน

"เราต้องการให้เศรษฐกิจหมุนเวียน ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการออกมาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนของการจับจ่ายใช้สอย ถ้าไม่จับจ่ายใช้สอย เศรษฐกิจก็ไปไม่ได้ ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกเป็นแบบนี้ เราต้องการประคองในส่วนนี้ เรื่องการลงทุนเราทำแน่นอน อยู่ในแผนการคลังระยะปานกลาง ปี 64-67 ซึ่งได้กำหนดว่าจะต้องมีการลงทุนไม่น้อยกว่า 20% ของงบประมาณ เราจะลงทุนในทุกด้านที่สำคัญ ทั้งภาคอุตสาหกรรม การคมนาคม เทคโนโลยี และการลงทุนในเชิงสังคม" รมว.คลังกล่าว

นายอุตตม กล่าวด้วยว่า วันนี้ไทยยังถือเป็นประเทศที่น่าสนใจลงทุนของผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากรัฐบาลไทยมีความชัดเจนที่จะสนับสนุนการลงทุนในกลุ่มนี้ ซึ่งได้มีการหารือร่วมกันทั้งในภาครัฐและเอกชนที่เป็นกลุ่มผู้ผลิตจากค่ายรถยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อร่วมกันจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย

"ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นในแผนต้องมีความชัดเจน เชื่อว่ากระทรวงที่เกี่ยวข้องได้หารือกันเพื่อดูแลและกำหนดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้ที่สนใจลงทุนได้เดินหน้าได้อย่างมีความมั่นใจ...ทุกค่ายรถ ผมได้พบกับผู้ผลิต ต่างพูดตรงกันว่าไทยมีแผนที่ชัดเจน เพียงแต่เทคโนโลยีมันเปลี่ยนแปลงเร็ว ดังนั้นต้องมีการปรับ update แผน ซึ่งเราทำได้แน่นอน เพื่อให้เขาลงทุนกันได้" รมว.คลังกล่าว

พร้อมระบุว่า ในปัจจุบันได้เริ่มเห็นการลงทุนของบางค่ายรถยนต์แล้วในส่วนของการผลิตแบตเตอร์รี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งเชื่อว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นจุดแข็งของไทย เพราะมีโครงขายของผู้ผลิตรองรับในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้อย่างครบถ้วน และจะได้เห็นการลงทุนที่ต่อเนื่องจากอุตสาหกรรมนี้อย่างแน่นอน

นายอุตตม กล่าวอีกว่า รัฐบาลต้องการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างสะดวกมากขึ้น เพราะการที่กลุ่มธุรกิจ SME สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ จะเป็นการสร้างโอกาสในการลงทุน และมีส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ แต่ในขณะที่ระบบตลาดเงินและตลาดทุนมีความซับซ้อนมากขึ้น ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น การให้ทักษะและความรู้แก่ผู้ประกอบการตั้งแต่ระดับชุมชนจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง

"การเข้าถึงแหล่งทุนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะไทยต้องลงทุนเพื่ออนาคต การลงทุนต้องเกิดขึ้นทุกระดับตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ แต่การลงทุนโดยธุรกิจตัวเล็กๆ ถือเป็นพลังใหม่ที่เราต้องช่วยกันส่งเสริม ในขณะที่รัฐบาลเองก็จะลงทุนในระดับใหญ่ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน เพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศ และยกระดับในเชิงกายภาพ ซึ่งเชื่อว่าในอีก 5 ปีจากนี้ การคมนาคมของประเทศจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ทั้งท่าเรือ ทางบก ระบบราง และอากาศยาน" รมว.คลังกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ