พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรกปี 63 น่าจะมีอัตราการเติบโตดีขึ้น เป็นผลจากมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลดำเนินมา ทั้งมาตรการระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ซึ่งได้สั่งการให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปีนี้เพื่อให้ส่งแลไปถึงไตรมาส 1/63
"ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี ผมอยากให้มีการกระตุ้นให้ไตรมาส 4 เติบโตต่อเนื่อง และขยายตัวส่งไปยังไตรมาส 1 ของปี 63 ด้วย เน้นในเรื่องการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ มีโครงการลงทุนอีกหลายโครงการเกือบแสนล้านบาทต้องเร่งดำเนินการให้ได้โดยเร็ว ใช้จ่ายเงินให้เหมาะสม เพื่อแก้ปัญหาค่าเงินบาทด้วย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องเศรษฐกิจเพราะถือเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายผ่านมาตรการต่างๆ เช่น การเปิดถนนคนเดินทั่วประเทศ เพื่อช่วยกระตุ้นการจับจ่ายในระยะสั้น ทำให้เศรษฐกิจฐานรากดีกว่าช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกหลายอย่าง เช่น การเพิ่มความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานการผ่านทางโครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย การพักชำระหนี้กองทุนหมู่บ้าน มาตรการช่วยเหลือผู้ปลูกข้าวผ่านโครงการช่วยเหลือค่าเก็บข้าวและปรับปรุงคุณภาพข้าว รวมถึงมาตรการลดภาระสินเชื่อที่อยู่อาศัยภายใต้โครงการบ้านดีมีดาวน์ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง และเปิดโอกาสให้สามารถเช่าบ้านเดือนละ 999 บาทที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นการซื้อได้ในอนาคต
ส่วนปัญหาเงินบาทแข็งค่านั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทราบว่ามีการประชุมร่วมกันระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการผ่อนคลายว่าต้องทำอย่างไร ซึ่งคงมีมาตรการตามมาเพื่อให้สามารถดำเนินการธุรกิจต่อไปได้ และไม่อยากให้ทุกคนตื่นตระหนกจนเกินไป