(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 30.15/17 แนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.10-30.20 จับตาเหตุขัดแย้งสหรัฐ-อิหร่าน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 6, 2020 11:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.15/17 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวัน ศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.15 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทในช่วงเช้านี้คาดว่าจะยังอยู่ในกรอบแคบๆ แต่ช่วงบ่ายน่าจะเริ่มมีการเคลื่อนไหว เนื่องจากจะมีตัวเลขเศรษฐกิจจาก เยอรมนี ออกมา ส่วนปัจจัยความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ก็มีแนวโน้มจะทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า และส่งผลให้เงินบาทยังมีทิศ ทางแข็งค่าต่อได้เช่นกัน

"จากปัญหาระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ก็มีผลทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าได้ และบาทก็มีโอกาสที่จะแข็งค่าได้ในระหว่างวัน" นัก
บริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.10-30.20 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (3 ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.99797% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.06324%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 30.1425 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.90/93 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 108.90 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1160/1165 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1140 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.1610 บาท/ดอลลาร์
  • ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (6-10 ม.ค.) ที่ 30.00-30.30 บาทต่อดอลลาร์
สหรัฐ โดยปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม คือ การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ การ
เจรจาการค้าสหรัฐ-จีน และสถานการณ์ในตะวันออกกลาง
  • ผู้บริหาร สรท.และผู้ส่งออก จะเข้าพบกับนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในวันที่ 10
ม.ค. นี้ เพื่อหารือถึงการแก้ไขปัญหาค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่า เพราะผู้ส่งออกกังวลว่าเงินบาทจะแข็งค่าจนหลุดกรอบต่ำกว่า 30 บาท
ต่อดอลลาร์สหรัฐ และกระทบขีดความสามารถในการส่งออกไทยลดลง เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาผลจากการแข็งค่าของเงินบาททำให้ผู้
ส่งออกสูญเสียรายได้ไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาทแล้ว ดังนั้นภาคเอกชนเห็นว่าค่าบาทที่เหมาะสม ควรเคลื่อนไหวในกรอบ 31 บาทต่อ
ดอลลาร์สหรัฐ หรือแข็งค่าในอัตราใกล้เคียงกับคู่แข่ง
  • รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในปี 2563 จะต้องเร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติในภาพใหญ่ อาทิ การพัฒนาสวัสดิการของรัฐบาล
การก้าวสู่โลกดิจิทัล การช่วยเหลือเอสเอ็มอี การพัฒนาฐานราก เป็นต้น เพื่อให้เกิดการลงทุนและการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ ซึ่งจะ
สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติได้ ถึงแม้ปัจจัยภายนอกจากเศรษฐกิจโลกจะมีความท้าทาย เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโต
ตามคาดการณ์ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ที่กำหนดไว้ว่าจะขยายตัวถึง 3%
  • ซีอีโอแนะรัฐเตรียมความพร้อมรับมือความเสี่ยงทางการเงิน ความผันผวนของระบบ หวั่นกระทบการบริโภคการลงทุนใน
ประเทศ เร่งยกระดับรายได้เกษตรกร เศรษฐกิจฐานราก กระตุ้นบริโภคในประเทศให้ดีขึ้น ชี้รัฐต้องก้าวให้ทันเรื่องดิจิทัล เพิ่มทักษะ
บุคลากรรับการเปลี่ยนแปลง ชี้พรรคร่วมรัฐบาลที่ดูแลเศรษฐกิจต้องร่วมมือ และทำการเมืองให้นิ่งมากที่สุด
  • การเมืองไทยสัปดาห์แรกของปี 63 ระหว่างวันที่ 8-9 ม.ค.จะร้อนแรงด้วยการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย
ประจำปีงบประมาณ 2563 ในวาระที่ 2 และ 3 ภายหลัง กมธ.วิสามัญที่มี "อุตตม" เป็นประธาน พิจารณาเสร็จแล้ว
  • กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์เตือนว่า อิหร่านอาจโจมตีซาอุดีอาระเบียอีกระลอก โดยคาดว่าอาจจะใช้
ขีปนาวุธหรือโดรนเพื่อโจมตีพื้นที่ใกล้ฐานทัพทหารและแหล่งน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย
  • ราคาทองในตลาดสปอตพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี ในช่วงเช้านี้ เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออก
กลางส่งผลให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า สหรัฐพร้อมตอบโต้อิหร่าน "อย่างรุนแรง" หากอิหร่านคิดแก้แค้นสหรัฐที่ปลิด
ชีพนายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลัง Quds Force ของอิหร่าน
  • สัปดาห์นี้สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้าย

เดือนธ.ค., ดุลการค้าเดือนพ.ย., ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ

ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ