สมาคมผู้ซื้อบ้าน ยื่นหนังสือถึงนายกฯ เสนอให้สิทธิประโยชน์การซื้อบ้านระหว่างประชาชน-กดดันแบงก์ลดดอกเบี้ยกู้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 8, 2020 15:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมผู้ซื้อบ้าน ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ณ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล เสนอพิจารณาให้สิทธิประโยชน์แก่การซื้อบ้านในระหว่างประชาชนกันเอง รวมถึงมีส่วนลดดอกเบี้ยเงินกู้ และให้การคุ้มครองเงินดาวน์เป็นมาตรการภาคบังคับเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค

นายโสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ในฐานะนายกสมาคมผู้ซื้อบ้าน กล่าวว่า สมาคมฯ เสนอให้รัฐบาลลดภาษีและค่าธรรมเนียมให้กับการซื้อบ้านของภาคประชาชนกันเอง เพื่อกระตุ้นให้มีการซื้อขาย เพื่อนำเงินไปใช้หนี้ หรือประกอบธุรกิจอื่นใด อันจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแท้จริงและเห็นผลได้ชัดเจนกว่าการกระตุ้นโดยให้ซื้อบ้านกับผู้ประกอบการเท่านั้น นอกจากนี้มาตรการการช่วยเหลือประชาชนนี้ ยังแสดงถึงความใส่ใจของรัฐบาลต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของชาติโดยเอาประชาชนเป็นที่ตั้งอีกด้วย

สำหรับโครงการ "บ้านดีมีดาวน์" สนับสนุนเงินเพื่อลดภาระการผ่อนดาวน์นั้น สมาคมฯ มองว่าไม่มีความจำเป็นต้องดำเนินการเพราะไม่ใช่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและเป็นเพียงการช่วยเร่งการขายให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่มากว่าการให้ประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไป

นอกจากนั้น สมาคมฯ ยังมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ได้แก่ 1. ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MOR ของธนาคารพาณิชย์ ลดลงมาอยู่ที่ 6.745% และ อัตราดอกเบี้ย MLR ยืนอยู่ที่ 6.025% ในทางตรงกันข้าม อัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่ำมาก คืออัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 1-2 ปีก็เพียง 1.4%-2.0% เท่านั้น หากคิดเฉลี่ยที่ 1.5% ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยเงินกู้ MOR และ MLR จึงอยู่ที่ 4.525% - 5.245% ซึ่งก็ยังสูงมากอยู่ดี หากคิดจากค่านายหน้าต่างๆ ประเทศไทยเก็บเป็นเงิน 3% ต่อปี กรณีเอาเงินของประชาชนไปปล่อยกู้ ก็ควรได้กำไรไม่เกิน 3% ต่อปี

ดังนั้นสมาคมฯ จึงเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ว่าลดแล้วก็ยังสูงมากอยู่ดี ในต่างประเทศต่างก็มีส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากน้อยมาก รัฐบาลจึงควรเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อลดดอกเบี้ยลงอีก 2% เพราะปกติธนาคารก็มีรายได้มากมายจากกิจการที่ไม่ใช่การฝาก-กู้ยืมเงินอยู่แล้ว หรือไม่ก็เปิดโอกาสให้ธนาคารต่างชาติมาแข่งขันซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยลดลงอย่างชัดเจน หากลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้ เศรษฐกิจก็จะฟื้นคืนได้

2. การคุ้มครองเงินดาวน์ของผู้ซื้อบ้าน ในปัจจุบัน พ.ร.บ.การดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญา พ.ศ.2551 (กฎหมายเอสโครว์: Escrow Account) เป็นกฎหมายที่ไม่ได้บังคับใช้ แต่ให้ใช้ตามความสมัครใจ จึงไม่มีผู้ใดปฏิบัติตาม การบังคับใช้กฎหมายนี้จะทำให้ผู้บริโภคได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ทำให้วงการพัฒนาที่ดินมีหลักประกัน เป็นการสร้างยี่ห้อที่ดีให้กับผู้ประกอบการเอง สมาคมฯ จึงมีความเห็นว่ารัฐบาลควรเร่งสร้างความมั่นคงให้กับระบบตลาดที่อยู่อาศัย โดยรัฐบาลควรมีนโยบายขอให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ แทนที่จะเป็นแบบสมัครใจเช่นในปัจจุบัน ผลดีที่จะตามมาก็คือผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในการคุ้มครองของตลาดอสังหาริมทรัพย์และมาซื้ออสังหาริมทรัพย์มากขึ้น เป็นการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เพื่อประโยชน์ต่อทุกฝ่ายทางหนึ่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ